จับยาโควิดเถื่อน! ยึดของกลาง 10 ล้าน สธ.ย้ำอย่าซื้อ ‘โมลนูพิราเวียร์’ กินเอง
วันนี้ ( 4 ส.ค. 65 )กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย คณะกรรมการอาหารและยา และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาขายยารักษาโควิดเถื่อน พร้อมยึดของกลางยา 80,000 เม็ด มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนอย่าเสี่ยงซื้อยาต้านไวรัสมาผ่านออนไลน์ ตุนที่บ้าน เพราะเป็นยาควบคุมพิเศษต้องได้รับการวินิจฉัย และ สั่งจ่ายยาโดยแพทย์ถึงมีความปลอดภัย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ พลตำรวจโทอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานกรณีจับกุม นายประเสริฐ และพวกรวม 3 คน กระทำความผิดฐาน ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หลังพบการลักลอบจำหน่ายยาในกลุ่มที่รักษาโรคโควิด -19 ผ่านทางสื่อออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากมาก จึงได้ทำการสืบสวน ล่อซื้อ นำไปสู่การจับกุม เป็นของกลางที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาทั้งหมดรวมกว่า 2,300 กล่องประมาณ 80,000 เม็ดมีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารู้จักกับคนอินเดียให้ช่วยซื้อให้และส่งมาจากประเทศอินเดียลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยส่วนใหญ่ลักลอบนำเข้าผ่านทางด่านศุลกากร ไปรษณีย์แจ้งวัฒนะ
นายอนุทิน ย้ำว่าไม่ควรซื้อยาออนไลน์กินเอง โดยเฉพาะยาโมลนูพิราเวียร์ซึ่งเป็นยาควบคุมพิเศษต้องได้รับการวินิจฉัยและสั่งจ่ายยาโดยแพทย์ถึงมีความปลอดภัยเลิกคิดซื้อมาตุนสำรองไว้ที่บ้าน โรคโควิดต้องให้แพทย์รักษากินยาตามสั่ง หากประชาชนซื้อยาดังกล่าวไปรับประทานเองอาจได้ยาปลอมที่ไม่มีตัวยาสำคัญหรือยาที่ไม่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการรักษาโควิด 19 และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัยอาจก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การจัดหายารักษาโควิด 4 รายการ คือ ฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ และแพกซ์โลวิด มีข้อบ่งใช้และข้อกำหนดต่างๆ โดยยาที่สาธารณสุขจัดหาได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. มีประสิทธิภาพ คุณภาพ และปลอดภัย
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมได้จัดสรรยาให้ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยจัดสรรฟาวิพิราเวียร์แล้ว 265.5 ล้านเม็ด โมลนูพิราเวียร์ 12 ล้านเม็ด เรมเดซิเวียร์ 375,210 ไวอัล ปัจจุบันยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์อยู่ในพื้นที่ 11 ล้านเม็ด ใช้เฉลี่ย 7.8 แสนเม็ดต่อวัน เพียงพอการใช้ 14 วัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเติมยาต่อเนื่องเมื่อมีการใช้ด้วยระบบ VMI เพื่อให้ยาในพื้นที่มีสำรองสำหรับการใช้ 14 วันอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก : คณะกรรมการอาหารและยา
ภาพจาก : คณะกรรมการอาหารและยา / AFP