พายุหมุนถล่มบุรีรัมย์ พัดบ้าน โรงเรียน พังกว่า 30หลัง เผยนาทีบ้านสั่น หาที่หลบหนีตาย
ข่าววันนี้ 3 ก.พ. 65 นางรอง ปูดวงรัมย์ นายกอบต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต. และนายจำเนียร สีรุ้ง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสระเกษ ลงพื้นที่สำรวจสภาพบ้านเรือน โรงเรียน ยุ้งฉาง คอกสัตว์ และศาลากลางหมู่บ้าน ที่ถูกลมพายุหมุนและฝนกระหน่ำพัดเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับความเสียหายกว่า 30 หลัง โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านสระเกษถูกพายุพัดอาคารเรียนชั้นอนุบาลถึงป.6 ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยหลังคากระเบื้องแตกฝ่าเพดานทะลุ อุปกรณ์การเรียนการสอน ตู้เก็บเอกสาร เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นสื่อการเรียน ถูกฝนเปียกเสียหายเกือบทั้งหมด คุณครูบอกว่าปีนี้โรงเรียนถือว่าเสียหายหนักสุดในรอบ 30 ปี
ส่วนบ้านเรือนราษฎรก็จะถูกพายุพัดเอาหลังคาที่เป็นสังกะสีเปิด ปลิวไปไกลกว่า 200 เมตร นอกจากนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ยังหักโค่นทับหอระฆังวัดสระเกษ จนทำให้หลังคาพังเสียหายและรูปปั้นพญานาคที่อยู่บนยอดฉัตรหอระฆังแตกล่วงหล่นกระจายเต็มพื้น เศียรพญานาคขาด ทำให้พระและชาวบ้านเชื่อว่าอาจจะเป็นรางไม่ดี เพราะปีนี้เป็นครั้งที่สองที่เศียรพญานาคขาด
พระนารี สังวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกษ กล่าวว่า เมื่อช่วงประมาณ 18.00 น. เมื่อวานนี้เกิดลมพายุหมุนอย่างแรงพัดเอาต้นไม้ขนาดใหญ่ในวัดหักโค่นทับหอระฆังจนพังเสียหาย โดยเฉพาะยอดฉัตรที่มีรูปปั้นพญานาคแตกเสียหาย เศียรพญานาคขาด ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่สองที่เกิดขึ้นปีที่แล้วรูปปั้นพญานาคก็ถูกพายุพัดหักมาแล้ว ส่วนตัวจึงเชื่อว่าอาจจะเป็นรางไม่ดีอะไรบางอย่างอาจจะเกิดในหมู่บ้าน ถึงแม้จะเกิดจากภัยธรรมชาติก็ตาม แต่เพื่อความสบายใจทั้งทางวัดและญาติโยมเอง ก็ได้ปรึกษาหารือกับกรรมการวัด เพื่อทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดีตามความเชื่อ
ด้าน นางละมัย กินไธสง อสม. กล่าวว่า ตอนที่ลมพายุหมุนอย่างแรงน่ากลัวมากก่อนจะมีฝนกระหน่ำตามมา ซึ่งตอนนั้นตอนกับแม่วัย 85 อยู่ใต้ถุนบ้านก็ทำอะไรไม่ถูกยายก็นั่งตัวเปียก ส่วนตัวเองก็ไปนั่งหลบอยู่ใต้ถุนเพราะตอนที่ลมพัดบ้านสั่นสะเทือนทั้งหลัง ก็กลัวบ้านจะพังถล่มแต่ไม่รู้จะทำยังไมก็ได้แต่นั่งพนมมือและฉี่ราดใส่กางเกงเพราะกลัวมาก พอลมและฝนสงบลงไปตรวจดูบ้านก็พบว่าทั้งหลังคาบ้าน คอกวัว พังเสียหาย
ส่วน นางรอง ปูดวงรัมย์ นายก อบต.พระครู กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีบ้านเรือน โรงเรียน วัด ยุ้งฉาง และคอกสัตว์ถูกพายุพัดพังเสียหายกว่า 30 หลัง จากการประเมินเบื้องต้นก็คาดว่าไม่ต่ำกว่า 6 – 7 แสนบาท อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็จะได้มาสำรวจประเมินความเสียหายที่แท้จริงอีกครั้ง เพื่อจะได้เสนอรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์อย่างเร่งด่วนต่อไป ซึ่งจากการสอบถามคุณครูก็บอกว่าปีนี้โรงเรียนถือว่าเสียหายหนักสุดในรอบ 30 ปี