JMARTปั้นใหญ่JVC เกมรุกตลาดรองNFT
ทันหุ้น - JMART ปืนไวเปิดแพลตฟอร์ม JNFT Marketplace ตลาดรองซื้อขาย NFT ครั้งแรกในไทย ดีเดย์เปิดบริการ 25 ธันวาคมนี้ หนุนผลตอบแทนให้กับธุรกิจในอนาคต แย้มใช้ JFIN Coin ซื้อขายได้ เล็งดัน “เจ เวนเจอร์ส” เข้าตลาดหุ้น อัพแกร่งระยะยาว คาดชัดเจนปี 2567
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจให้บริการเทคโนโลยี สารสนเทศ (บริษัทในเครือของ JMART) เข้าตลาดจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต
ทั้งนี้ ปัจจุบันทาง JVC มีทุนจดทะเบียนเกือบ 200 ล้านบาท และมีแผนเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม NFT สัญชาติไทยเป็นครั้งแรก โดยปัจจุบันทาง JMART ถือหุ้นใน JVC อยู่ที่มากกว่า 60%และคาดน่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2566-2567
"การที่ JVC มีแผนออกแพลตฟอร์ NFT เป็นเจ้าแรกของไทยในเร็วๆ นี้นั้นบริษัทมองถือเป็นผลบวก เพราะช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับทาง JMART ในฐานผู้ถือหุ้นในระยะยาวด้วย" นายอดิศักดิ์กล่าว
@ เปิด NFT ครั้งแรกในไทย
ด้านนายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดจะเปิดตัวแพลตฟอร์ม JNFT Marketplace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม NFT ที่อยู่ในรูปแบบของตลาดรอง (Secindary Martlet) และได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวจะเป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่สามารถซื้อ ขาย ประมูล ผลงานศิลปะที่เป็นดิจิทัล บนระบบบล็อกเชนแบบไร้ศูนย์ (Decentralized) ผ่านการยืนยันสิทธิ์แทนการเป็นเจ้าของด้วยเหรียญที่ไม่สามารถแทนค่าหรือทำซ้ำได้ (Non-Fungible Token) รองรับงานศิลปะที่เป็นไฟล์ดิจิทัล ได้แก่ รูปภาพความละเอียดสูงที่เป็นฟอร์แมต JPG หรือ PNG รูปภาพเคลื่อนไหวในฟอร์แมต GIF หรือ MP4เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นการขยายช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับธุรกิจในอนาคต
สำหรับแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นมีจุดเด่นคือ เป็น Local Community Global Buyer ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตลาดกลางของคนไทย ศิลปินไทย และผู้ชื่นชอบที่จะสะสมงานศิลปะ รวมไปถึงนักลงทุนจากทั่วโลก เข้ามามีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลงานศิลปะได้อย่างกว้างขวาง การเป็น Professional Listing อีกทั้งยังการทำงานบนมาตรฐาน ERC721 เทียบเท่ากับแพลตฟอร์ม NFT ระดับโลก และLow network Fee เนื่องจากแพลตฟอร์มพัฒนาบนบล็อกเชนของ Binance Smart Chain ที่มีความรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมในการใช้งานราคาถูก ทำให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงการใช้บริการได้ดียิ่งขึ้น
โดยผู้สนใจใช้บริการในแพลตฟอร์ม JNFT จำเป็นต้องจะใช้ Cryptocurrency 3 สกุลในการซื้อ ขาย และประมูล NFT ได้แก่ Jfin Coin, BNB และ BUSD และใช้สกุล BNB ในการชำระค่าธรรมเนียมในการ Mint NFT ผ่านระบบบล็อกเชน ของ Binance Smart Chain ซึ่งบริษัทจะเน้นการผลักดันผลงานศิลปะต่างๆ ของนักสร้างสรรค์ในประเทศไทยทั้งที่เป็นบุคคลและภาคองค์กรต่างๆ รวมถึงการสร้างชุมชน (Community) ของนักสะสม (Collector) NFT เพื่อทำให้ NFT ของไทยและแพลตฟอร์ม JNFT ได้รับความนิยมมากขึ้น และยังเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวในระยะยาว คาดน่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ธันวาคม 2564
@กำไรโตอลังการ
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น JMART ให้ราคาเป้าหมายเบื้องต้นที่ 55.50 บาท เนื่องจากคาดกำไรคาดกำไรสุทธิ 2565 จะเติบโตก้าวกระโดดไปอยู่ที่ระดับ 1.95 พันล้านบาท เพราะได้แรงหนุนสำคัญจากธุรกิจของ JMT นอกเหนือ จากธุรกิจในส่วนอื่นๆ อาทิ SINGER, J, JVC ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในอนาคต