UOB คาดไทยเจอภาษี20% ชูเฮลธ์แคร์-เวลเนสดาวเด่น

#UOB #ทันหุ้น - UOB เผยว่าตัวเลขความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไทยยังโดนเรียกเก็บภาษี 36% แต่ยังมีโอกาสเปิดให้ได้เจรจาอีก โดยคาดหวังที่ดีที่สุด 20% ระดับเดียวกับเวียดนาม ซึ่งไทยยังมีข้อได้เปรียบอีกมากทั้งเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงยังสามารถลดภาษีสินค้าสหรัฐ ให้เหลือ 0% ได้ในบางอุตสาหกรรม โดยยกให้ Health Care-Wellness เป็นดาวเด่นของอุตสาหกรรมไทยในอนาคต
นายสถิตย์ แถลงสัตย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ และธุรกิจสัมพันธ์ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย หรือ UOB เปิดเผยว่า จากผลสำรวจ Business Outlook Study 2025 ซึ่งจัดทำเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงกว่า 535 ราย เผยให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจไทยลดลงอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขความเชื่อมั่นอยู่ที่ 62% ในปี 2566 และลดลงเป็น 58% ในปี 2567 ล่าสุดเหลือเพียง 52% ในปี 2568
ขณะที่ไทยโดนเรียกเก็บภาษี 36% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไทยพึ่งพิงตลาดสหรัฐ ในระดับสูงมาก คิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของการส่งออกทั้งหมด โดยประเมินผลกระทบเป็น 3 ระลอก ได้แก่ 1.ผลกระทบทางตรงต่อภาคส่งออก ทำให้การผลิตลดลง สินค้าคงคลังสูงขึ้น การจ้างงานลดลง หรือต้องยกเลิกการจ้างงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค 2.ผลกระทบต่อผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ภายในประเทศ เมื่อการผลิตลดลงความต้องการซัพพลายเออร์จะลดลงตาม 3.การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าจีน และการเข้ากระจายสินเข้ามายังอาเซียนรวมถึงไทย
@ไทยยังได้เปรียบกว่าเวียดนาม
ทั้งนี้การที่สหรัฐ ส่งจดหมายเปิดช่องให้เจรจา แสดงว่ายังเปิดโอกาสให้ไทยได้ต่อรอง ทำให้มีความหวังว่าไทยจะเจรจาได้ในอัตราภาษีที่ดี โดยมองอัตราที่ดีที่สุด 20% ยังพอเป็นไปได้ แม้จะมีปัจจัยอื่นที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไทยกับสหรัฐ และบทบาทพันธมิตรในภูมิภาค อาจช่วยในเรื่องการเจรจา ถ้าหากไทยโดนภาษีสูงกว่าเวียดนามที่ถูกเรียกเก็บภาษี 20% จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนแน่นอน
แต่เรื่องภาษีไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการ โดยข้อได้เปรียบของไทย มีมากกว่าเวียดนาม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมของไทยมีความครอบคลุมมากกว่า เช่น เครื่องมือ เครื่องจักร และเคมีภัณฑ์
@เรียกเก็บภาษีสหรัฐ 0%
ขณะที่เวียดนามได้พึ่งพิงตลาดสหรัฐสูงถึงประมาณ 40% ของการส่งออก และ 80% ของการส่งออกจากบริษัทต่างชาติที่ไปลงทุนในเวียดนาม ทำให้เวียดนามมีทางเลือกน้อยกว่าและถูกบีบให้ต้องเจรจา ในส่วนไทยยังโอกาสเปิดการค้าเสรีในการเรียกเก็บภาษีจากสหรัฐ ที่ 0% ในบางอุตสาหกรรม เช่น คมนาคมและภาคการเงิน จะเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคและส่งเสริมการแข่งขัน
อย่างไรก็ดีอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็น 60% ของการส่งออกไปสหรัฐ อุตสาหกรรมในไทยที่ได้รับผลกระทบน้อยและมีศักยภาพ คือ เฮลธ์แคร์-และ เวลเนส (Health Care & Wellness) ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็น “ดาวรุ่ง” ที่ไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูง และสามารถเป็นศูนย์กลางได้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
