รีเซต

หมอเตือน! สารพิษในบุหรี่ เป็นปัจจัยสำคัญเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

หมอเตือน! สารพิษในบุหรี่ เป็นปัจจัยสำคัญเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
TNN ช่อง16
31 พฤษภาคม 2564 ( 16:45 )
119
หมอเตือน! สารพิษในบุหรี่ เป็นปัจจัยสำคัญเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

วันนี้( 31 พ.ค.64) นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าควันบุหรี่เป็นผลผลิตของสารที่ เกิดจากการเผาไหม้ นิโคติน และ alkaloids และยังมีสะสารในควันบุหรี่หลายชนิดสามารถทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ควันบุหรี่ยังมีสารออกซิแดนซ์ที่มีความเข้มข้นสูงทำอันตรายต่อผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอักเสบนำไปสู่โรคผนังหลอดเลือดแดงแข็ง(Atherosclerosis) และกระตุ้นเกล็ดเลือดและ การเกิดลิ่มเลือด ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์(CO) ในควันบุหรี่จะจับกับฮีโมโกลบินอย่างแน่น และมีผลลดความสามารถในการนำและปลดปล่อยออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงทำให้เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ทำให้มีผลต่อการขาดเลือดมากขึ้น ผู้ที่สูบบุหรี่บางรายจะตอบสนองโดยเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงเข้มข้น (polycythemia) ทำให้มีความหนืดของเลือดมากขึ้น และนำไปสู่ภาวะเลือดเกิดการแข็งตัวได้ง่าย (hypercoagulable state)

ในปัจจุบันเชื่อว่า free radical เป็นตัวการสำคัญในการเกิดผนังหลอดเลือดแดงแข็งที่เป็น ผลมาจากการสูบบุหรี่ กลุ่มอาการของผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งมีอาการแสดงได้หลายอย่างเช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบชนิดเรื้อรัง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน การเสียชีวิตแบบกะทันหัน และโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ยังมีผลทำให้เกิดอาการปวดขาจากหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ การโป่งพองของหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องและการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

นอกจากนี้ทาร์ ยังเป็นสารก่อมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไนโตรเจนไดออกไซค์ จะทำลาย เยื่อบุหลอดลมส่วนปลายและถุงลม ทำให้เกิดถุงลมโป่งพอง ไฮโดรเจนไซยาไนต์ ทำให้เกิดอาการไอ มีเสมหะ และหลอดเลือดอักเสบเรื้อรัง จะเห็นได้ว่าสารพิษในบุหรี่มีมากมาย

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า การสูบบุหรี่ ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆมากมาย รวมทั้งเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ เพราะสารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย โดยมีความผิดปกติหลายอย่างร่วมกันในการทำงานของเยื่อหลอดเลือดผิดปกติ มีการอักเสบของผนังหลอดเลือด และการเปลี่ยนแปลงของไขมันมีการเพิ่มขึ้นของระดับ คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) และระดับของ ไตรกลีเซอร์ไรด์อย่างชัดเจน แต่จะมีการลดลงของคอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL) มีผลในการเกิด ผนังหลอดเลือดแดงเสื่อมและมีผนังหลอดเลือดแดงแข็งตามมา นอกจากนี้ยังกระตุ้นการทำงานของเกล็ดเลือดทำให้เกิดลิ่มเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและการเสียชีวิตแบบกะทันหัน

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากการเสื่อมสภาพของผนังหลอดเลือดแดงโคโรนารี (Coronary) เกิดเป็นคราบเกาะผนังด้านในหลอดเลือดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้รูหลอดเลือดค่อยๆตีบลง จนทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่สะดวกและ การไหลเวียนเลือดไปสู่หัวใจลดน้อยลงและหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอจนอาจทำให้เกิด “ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด” ได้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเวลาออกกำลังและดีขึ้นเมื่อได้พักหรืออมยาขยายหลอดเลือด ซึ่งมีลักษณะอาการเรื้อรัง

นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางรายอาจมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกกะทันหันรุนแรงชนิดเฉียบพลันที่เกิดจากการปริแตกของผนังด้านในของหลอดเลือดทำให้มีลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดเฉียบพลันหากปล่อยทิ้งไว้หรือรู้ตัวช้า และไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมตามเวลาอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต และบางรายเสียชีวิตกะทันหันจากการเต้นผิดปกติของหัวใจห้องล่างชนิดร้ายแรง

การป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ที่ดีที่สุด คือการเลิกสูบบุหรี่ซึ่งสามารถลดอัตราการเกิดโรคและลดอัตราการเสียชีวิตได้ การปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตดังนี้ 1. ปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นรับประทานผักผลไม้ให้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงลดอาหารที่หวานจัด เค็มจัด 2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอประมาณ 30 นาที ต่อวัน 3.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 4. หลีกเลี่ยงความเครียด 5. งดการสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 6. ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อีกทั้งหากพบว่าตนเองมีอาการบ่งชี้ที่กล่าวมาข้างต้น ให้รีบมาโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัย และได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

หากท่านที่มีความประสงค์ต้องการเลิกบุหรี่ สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดให้บริการคลินิกอดบุหรี่ ในทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยมีบริการให้คำปรึกษาการเลิกบุหรี่ จากบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะทาง และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งมีบริการอดบุหรี่ด้วยยา ในทุกวันจันทร์ เวลา 08.00 – 12.00 น. หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 02-5470999 ต่อ 30927

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง