รัฐบาลอินเดีย ชดเชยให้ครอบครัวเหยื่อโควิด-19 รายละ 22,000 บาท

วันนี้ (6 ต.ค.64) เอ็มอาร์ ชาห์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมอินเดีย ประกาศว่า ญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จะได้รับเงินเยียวยาภายใน 30 วัน หลังจากที่ยื่นคำร้อง ภายหลังศาลสูงสุดอินเดียมีคำสั่งอนุมัติตามแผนของรัฐบาลในการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายละ 50,000 รูปี หรือราว 22,000 บาท หลังจากได้ขอคำตอบจากรัฐบาลกลาง และให้รัฐกำหนดกรอบการจ่ายเงินเยียวยา โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติว่าจะชดเชยให้ผู้เสียชีวิตรายละเท่าไร

คำสั่งของศาลสูงสุดอินเดีย มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มทนายความได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินเยียวยาแก่ครอบครัวเหยื่อโควิด-19 ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติ โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ทนายความ 2 คนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวเหยื่อโควิดทุกรายๆ ละ 400,000 รูปี (ราว 181,000 บาท) โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลได้ประกาศให้การระบาดของโควิด-19 เป็นภัยพิบัติ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติปี 2005 แล้ว

ขณะที่รัฐบาลอินเดียชี้แจงว่า เงินชดเชยรายละ 400,000 รูปีนั้น เกินกว่าความสามารถทางการเงินของแต่ละรัฐ ซึ่งจะต้องกระจายงบอุดหนุนมาตรการตอบสนองโรคระบาดในด้านอื่นๆ ด้วย

ต่อมาในเดือนสิงหาคม รัฐบาลกลางอินเดียได้แจ้งไปยังศาลสูงสุดอีกครั้งว่า จะจ่ายชดเชยให้เพียงศพละ 50,000 รูปี โดยใช้วงเงินจากงบตอบสนองภัยพิบัติที่ส่วนกลางจัดสรรให้แต่ละรัฐ

ทั้งนี้ อินเดียมีผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 มากกว่า 447,000 ราย ตามข้อมูลสถิติของรัฐบาล แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้ประมาณ 10 เท่าตัว

ขณะเดียวกัน อินเดียได้ดำเนินการตาต่อตา ฟันต่อฟันกับชาวอังกฤษ ให้ต้องกักตัว 10 วัน หลังเดินทางเข้าอินเดียแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วก็ตาม โดยให้เลือกว่าจะกักตัวที่บ้านหรือสถานที่ที่จัดไว้ให้ และเมื่อวันศุกร์ รัฐบาลอินเดียประกาศว่านักท่องเที่ยวจากอังกฤษจะต้องตรวจเชื้อ 3 ครั้ง คือ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง-เมื่อมาถึงสนามบิน และ 7 วัน หลังเข้าอินเดีย

มาตรการดังกล่าวของอินเดีย มีขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีที่อังกฤษ ประกาศให้ชาวอินเดียที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เดินทางเข้าอังกฤษยังต้องกักตัว ซึ่งหมายถึงการไม่รับรองวัคซีนที่ผลิตในประเทศอินเดีย แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ใช้ในอังกฤษก็ตาม โดยภายหลังทั้ง 2 ประเทศได้มีการเจรจากัน และอังกฤษได้ประกาศยอมรับวัคซีน Covishield ซึ่งเป็นชื่อของวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca ที่ผลิตในอินเดียแล้วก็ตาม แต่ยังปฏิเสธการรับรองว่าชาวอินเดียที่รับวัคซีน 2 เข็มแล้วคือคนที่ได้รับวัคซีนครบโดส ซึ่งอังกฤษให้เหตุผลว่า ไม่ใช่เพราะวัคซีน แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนของอินเดีย ไม่ได้ระบุถึงวันเกิดของผู้รับวัคซีนเอาไว้

ภาพจาก Reuters