รีเซต

PTG ชี้ PPPGCเทรดปี65 ปาล์มคอมเพล็กซ์พร้อม

PTG ชี้ PPPGCเทรดปี65 ปาล์มคอมเพล็กซ์พร้อม
ทันหุ้น
19 ตุลาคม 2563 ( 08:00 )
157
PTG ชี้ PPPGCเทรดปี65 ปาล์มคอมเพล็กซ์พร้อม

ทันหุ้น – สู้โควิด –PTG เล็งดัน PPPGC เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2565 ระดมทุนอัพกำลังผลิตเพิ่มเท่าตัว จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนลิตรต่อวัน คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้จากโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท ในปี 2563 ระบุขยายสิทธิ์โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ยาวถึงมกราคม 2564 ดันยอดเติมน้ำมันสเพิ่มเดินหน้าอัพฐาน Non-oil อัพฐานเพิ่ม

 

นายฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนนำบริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ PPPGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจปาล์มคอมเพล็กซ์ (PTG ถือหุ้น 40%, บริษัท ทีซีจี โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้น 51% และส่วนที่เหลือถือหุ้นโดยบริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังเสริมความแข็งแกร่งในระยะยาว ตลอดจนสนับสนุนการเติบโตอีกทางหนึ่ง

 

*รุกขยายฐานNon-oil

 

ทั้งนี้จากกรณีที่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการอนุมัติปรับเพิ่มเงื่อนไขในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เพิ่มเป็นถึงช่วง 31 มกราคม 2564 จากเดิมที่จะสิ่นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 นั้นทาง PTG ประเมินว่าน่าจะเป็นผลดีภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังกลายเป็นปัจจัยที่สนับสนุนยอดขายน้ำมันของบริษัทให้ขยายตัวมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลสัดส่วนกำไรขั้นต้นของ PTG ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน (Non-Oil) อยู่ที่ประมาณ 8.5% ส่วนที่เหลือมาจากเกี่ยวข้องกับน้ำมัน

 

ขณะเดียวในปึ 2564 บริษัทมีแนวทางขยายธุรกิจ Non-Oil มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจกาแฟ โดยในส่วนแบรนด์ "กาแฟพันธุ์ไทย" ที่จะมีการขายแฟรนไชส์ให้มากขึ้น ส่วนกาแฟแบรนด์ "coffe word" ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ดังกล่าว เพื่อขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก หวังเจาะตลาดบน หวังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตัวเลขของ Non-Oil ให้เพิ่มสูงขึ้น

 

*ดัน PPPGC เข้าตลาด

 

ด้านนายชัยทัศน์ วันชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ PPPGC กล่าวว่า บริษัทมีแผนยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ช่วงต้นปี 2565 เพื่อระดมทุนขยายโครงการผลิตไบโอดีเซล (B100) เฟสที่ 2 เพิ่มขึ้นอีก 500,000 ลิตรต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 100% จากเดิม และน่าจะสามารถเริ่มศึกษาภายในปี 2565เนื่องจากกำลังการผลิตในเฟสแรกยังเพียงพอต่อความต้องการของตลาดได้ โดยคาดว่าใช้เงินลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาท และใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 1 ปี

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ สามารถดำเนินงานได้เต็มกำลังผลิตเมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา โดยบริษัทมีรายได้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือไบโอดีเซล (B100) อยู่ที่ 77% กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ 500,000 ลิตรต่อวัน น้ำมันโอเลอิน มีรายได้อยู่ที่ 13%กำลังการผลิต 150 ตันต่อวัน ส่วนที่เหลือจะมาจากกลีเซอรีนบริสุทธิ์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก 10% โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตกลีเซอรีนบริสุทธิ์ อยู่ที่ 45 ตันต่อวัน

 

*ตั้งเป้ารายได้ 5-6 พันล้าน

 

"ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล (B100) จะเป็นกลุ่มโรงกลั่น โดยเกือบทุกบริษัทในประเทศ อาทิเช่น Thai oil และ IRPC เป็นต้น ขณะที่น้ำมันโอเลอิน ตลาดหลัก ๆ คือกลุ่มลูกค้าแบ่งบรรจุขายตามตลาด (Repacker) 70%และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม มีสัดส่วนอยู่ที่ 30%ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมากขึ้นอีก 10%และมีแผนที่จะสร้างแบรนด์เองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้สินค้าได้ ส่วนกลีเซอรีนบริสุทธิ์ อยู่ที่ 45 ตันต่อวัน ปัจจุบันเน้นตลาดส่งออก 100%” นายชัยทัศน์ กล่าว

 

สำหรับปี 2563 ทาง PPPGC ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท จากโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ที่สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มกำลังการผลิต รวมถึงปัจจัยบวกจากนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลหลักของประเทศ ซึ่งมีผลทำให้ปริมาณการใช้ไบโอดีเซล (B100) ในประเทศเติบโตสูงขึ้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง