‘ททท.’ มอบเครื่องหมาย ‘เอสเอชเอพลัส’ ให้พระบรมมหาราชวัง ย้ำความปลอดภัยรับเปิดประเทศ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้มอบตราสัญลักษณ์เครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (เอสเอชเอพลัส) ให้แก่พระบรมมหาราชวัง โดยมีพลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้รับมอบ โดยโครงการดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ได้กระตุ้นให้สถานประกอบการพัฒนาการให้บริการ โดยเฉพาะด้านสุขอนามัยให้เป็นไปตามมาตรการของสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมสู่วิถีปกติใหม่ (นิวนอร์มอล) ซึ่งสถานประกอบการที่ได้รับเครื่องหมายเอสเอชเอพลัส ถือเป็นการยกระดับการให้บริการด้านสุขอนามัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้บริการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ 100% แล้ว โดยปัจจุบันมีจำนวนสถานประกอบการได้รับรองมาตรฐานเอสเอชเอพลัส รวมกว่า 4,224 ราย ประกอบด้วยสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 102 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2564)
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ททท. ได้พิจารณามอบมาตรฐานเครื่องหมายเอสเอชเอพลัส เพื่อสะท้อนความพร้อมในการให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ ตอกย้ำให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยและมั่นใจในการเข้าชมสถานที่ หรือแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการต่างๆ เนื่องจาดมาตรฐานเอสเอชเอ ได้รับรองว่าเป็นมาตรฐานตามข้อกำหนด Safe Travels Stamp จากสภาการท่องเที่ยวโลก (WTTC) ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ต่อมาได้พัฒนามาตรฐานเอสเอชเอ สู่เอสเอชเอพลัส เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศในการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยกำหนดเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานเอสเอชเอ และพนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางแล้ว
ทั้งนี้ สำหรับพระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นสถานประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานเอสเอชเอแล้ว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าชมพระบรมมหาราชวังและ วัดพระศรีรัตนศาสดารามได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ประกอบกับนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกรุงเทพมหานคร ได้รับเลือกเป็นพื้นที่นำร่องระยะที่ 1 ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้ามาชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.30 น. ชาวไทยเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม คนละ 500 บาท