รีเซต

ACT ชี้ปี 2568 ยุคโกงเป็นเครือข่าย เปิด 10 ข่าวคอร์รัปชัน เขย่าหลักนิติรัฐ

ACT ชี้ปี 2568 ยุคโกงเป็นเครือข่าย เปิด 10 ข่าวคอร์รัปชัน เขย่าหลักนิติรัฐ
TNN ช่อง16
25 ธันวาคม 2568 ( 14:15 )
12

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เผยภาพรวมสถานการณ์คอร์รัปชันในปี 2568 ว่าเป็นปีที่การทุจริตพัฒนาไปสู่รูปแบบ “โกงเป็นเครือข่าย” เชื่อมโยงนักการเมือง ชนชั้นนำ ข้าราชการ และทุนผิดกฎหมาย ครอบคลุมแทบทุกวงการ ส่งผลกระทบต่อหลักนิติรัฐ สิทธิมนุษยชน และความเชื่อมั่นของสังคมไทยอย่างรุนแรง

นายมานะ นิมิตรมงคล ประธาน ACT ระบุว่า หลายเหตุการณ์ในรอบปีสะท้อนพฤติกรรมของผู้มีอำนาจที่ไม่เกรงกลัวการตรวจสอบ ไม่ใส่ใจจริยธรรม ขณะที่องค์กรอิสระและกลไกถ่วงดุลจำนวนหนึ่งกลับไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนการต่อต้านคอร์รัปชันกลายเป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น



ACT จึงได้รวบรวม “10 ข่าวคอร์รัปชันแห่งปี 2568” เพื่อสะท้อนภาพการทุจริตเชิงโครงสร้างที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย ครอบคลุมการเมือง ระบบราชการ กระบวนการยุติธรรม และทุนผิดกฎหมาย ดังนี้

1. อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่ม

โศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตประชาชนถึง 86 ราย ความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ปรากฏผู้บงการหรือสาเหตุที่แท้จริง รายงานสอบสวนอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกเปิดเผย สร้างคำถามต่อมาตรฐานความปลอดภัยและความโปร่งใสของรัฐ

2. วิกฤตศรัทธาวงการสงฆ์

กรณีพระชั้นผู้ใหญ่โกงเงินวัด โดยเฉพาะคดี “สีกากอล์ฟ” ที่เกี่ยวข้องกับพระถึง 13 รูป ความเสียหายราว 385 ล้านบาท และยังลุกลามถึงพระชื่อดังและวัดอีกจำนวนมาก กระทบศรัทธาพุทธศาสนิกชนอย่างรุนแรง

3. เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ

การยึดและอายัดทรัพย์ 3 เครือข่าย มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท สะท้อนความเชื่อมโยงของทุนเทา นักการเมือง และข้าราชการ สร้างความเสียหายต่อประชาชนไทยมากกว่า 115,300 ล้านบาทต่อปี

4. ทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ขบวนการทุจริตที่ดำเนินมานานกว่า 7 ปี มีบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องกว่า 20 คน ความเสียหายราว 80 ล้านบาท ชี้ให้เห็นปัญหาคอร์รัปชันฝังรากลึกในระบบสาธารณสุขของรัฐ

5. คดีบังคับใช้โทษจำคุกอดีตนายกรัฐมนตรี

กรณีถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการติดคุกในลักษณะพิเศษ ผ่านการบิดเบือนกระบวนการทางกฎหมาย กระทบความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ

6. คดีส่วยเว็บพนันวงการตำรวจ

อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพวกกว่า 200 นาย ถูกชี้มูลความผิดทางวินัยจากกรณีรับเงินส่วยเว็บพนันออนไลน์ กลายเป็นข่าวมัวหมองที่สุดของวงการตำรวจในรอบปี

7. ใช้งบประมาณโดยมีส่วนได้เสียของฝ่ายการเมือง

อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นตำแหน่ง จากการเสนองบโครงการลงพื้นที่ตนเอง มูลค่ากว่า 443 ล้านบาท สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของรัฐสภาไทย

8. ข่าวฉาวสำนักงานประกันสังคม

ตั้งแต่การจัดทำปฏิทินปีละ 50 ล้านบาท ซื้อตึกเก่า 7 พันล้านบาท การพัฒนาแอปพลิเคชันมูลค่า 850 ล้านบาท ไปจนถึงการบริหารสินทรัพย์ที่ถูกตั้งคำถาม ทั้งที่เป็นเงินสมทบของผู้ประกันตนกว่า 24.8 ล้านคน

9. ห้องลับนักโทษ VVIP ในเรือนจำ

การเปิดโปงสิทธิพิเศษและการรับส่วยในระบบราชทัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนชั้นนักโทษ การย้ายรักษานอกเรือนจำ ทุจริตค่าอาหารและการก่อสร้าง ปัญหาที่สังคมรับรู้มานานแต่ไม่ถูกแก้ไขจริงจัง

10. ปฏิบัติการจับสดเจ้าหน้าที่รัฐโกง

ความร่วมมือของตำรวจ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ บก.ปปป. ในการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล และพระชั้นผู้ใหญ่ในหลายสิบคดี ถือเป็นสัญญาณบวกของการทลายเครือข่ายคอร์รัปชัน

ในมุมมองของ ACT ปัญหาที่น่ากังวลไม่ใช่เพียงตัวคดี แต่คือการที่หลายกรณียังไม่สามารถเอาผิดผู้บงการได้ ทั้งคดีสินบนข้ามชาติ คดีฮั้วประมูล และข้อพิพาทเชิงอำนาจที่ใช้หน่วยงานรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมือง จนทำให้หลักนิติรัฐของไทยอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลต่อแนวโน้มการเมืองและการเลือกตั้ง เมื่อเงินสกปรกจากธุรกิจผิดกฎหมายและทุนเทาอาจถูกนำมาใช้ซื้อเสียงและครอบงำอำนาจรัฐ หากไม่สามารถหยุดยั้งได้ การคอร์รัปชันจะยิ่งฝังรากลึกและขยายผลกระทบสู่ระบบเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว


นายมานะ ย้ำว่า ความหวังสำคัญของสังคมไทยยังคงอยู่ที่การเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยขอให้ประชาชนใช้หนึ่งสิทธิ์ที่มีอย่างมีความหมาย เลือกคนดี คนเก่ง และปฏิเสธนักการเมืองที่มีประวัติคอร์รัปชัน เพื่อหยุดวงจรโกงกินที่บั่นทอนอนาคตประเทศ

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง