รีเซต

TTCLชนะงานใหญ่อื้อ มีลุ้นคว้าปิโตร2แห่งอีก

TTCLชนะงานใหญ่อื้อ มีลุ้นคว้าปิโตร2แห่งอีก
ทันหุ้น
27 กันยายน 2565 ( 07:12 )
270

#TTCL #ทันหุ้น - TTCL ได้งานก่อสร้างโรงงานผลิตผงคาร์บอน จากญี่ปุ่น มูลค่าราว 6.5 พันล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 22,500 ล้านบาท ทำนิวไฮรอบ 6 ปี ผู้บริหารลั่นปีนี้รายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ 1 หมื่นล้านบาท ช่วงที่เหลือปีนี้ยังมีลุ้นงานใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ 3.5-4.0 พันล้านบาท ส่วนโครงการในเมียนมายังดำเนินการหลังสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้รับการต่ออายุสัญญาแล้ว

 

นายบุณยกฤต เสาวรรณ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เปิดเผยว่า บริษัทได้รับหนังสือเจตจำนงสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตผงคาร์บอน ซึ่งเป็นงาน EPC โดยเป็นงานออกแบบวิศวกรรม, จัดซื้อเครื่องจักรวัสดุอุปกรณ์ และก่อสร้าง โดยมี Thai Tokai Carbon Product Co., Ltd. เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งมีมูลค่างานประมาณ 6,500 ล้านบาท และโรงงานอยู่ที่จังหวัดระยอง คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นปี 2566 และบริษัทจะทยอยรับรู้ได้ทันที

 

ทั้งนี้ Thai Tokai Carbon Product Co., Ltd. เป็นบริษัทจากญี่ปุ่น ซึ่งผงคาร์บอนที่ผลิตนี้จะนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตยางรถยนต์ และดีลที่ได้นี้ นับเป็นดีลขนาดใหญ่ ทำให้งานในมือหรือ Backlog ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่  22,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2564 ที่มีงานในมืออยู่ที่ราว 8,000 ล้านบาท ซึ่งงานในมือที่ 22,500 ล้านบาท ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เป็นเวลาประมาณ 3 ปี

 

ขณะเดียวกันด้านงานใหม่ที่ได้ในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันนี้เกินเป้าหมายที่วางไว้แล้ว โดย 9เดือนแรกปีนี้สามารถชนะการประมูลแล้ว 8 โครงการ มีมูลค่ารวม 19,025 ล้านบาท ซึ่งเป็นทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่ประมาณ 80% จะเป็นงานในประเทศ และในช่วงที่เหลือปีนี้ยังมีโอกาสจะได้งานใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างด้านปิโตรเคมี อยู่ในประเทศไทย มีมูลค่ารวมกันประมาณ 3,500-4,000 ล้านบาท ดังนั้นงานใหม่ปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นไปกว่า 20,000 ล้านบาท นับว่างานใหม่ปรับตัวขึ้นมาสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ที่ 15,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับด้านรายได้รวมปีนี้ที่ตั้งเป้าว่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท แต่คาดว่ารายได้ปีนี้จะเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้  สาเหตุที่งานใหม่และรายได้ปีนี้เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลาย จึงทำให้งานที่อั้นมาก่อนหน้านี้ ได้ทยอยเปิดประมูลออกมาเป็นจำนวนมาก

 

อย่างไรก็ตามเป้าหมายงานใหม่ในปี 2566 เบื้องต้นบริษัทยังตั้งเป้าหมายที่ 15,000 ล้านบาท เหมือนกับปีนี้ เพราะมองว่าในปีนี้การประมูลงานมีจำนวนมาก เพราะชะลอจากปีก่อน แต่ในปีหน้างานประมูลอาจจะลดลงจากปีนี้ได้ ซึ่งบริษัทก็ยังมองว่าธุรกิจงาน EPC ของบริษัทกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น และเป็นช่วงขาขึ้น จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทต่างๆ กลับมาขยายการลงทุน

 

**ปลดล็อกตั้งสำรอง

 

นายบุณยกฤต กล่าวอีกว่า ในปีหน้า TTCL ก็จะไม่มีปัจจัยกดดันจากการตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 ซึ่งบริษัทได้มีการตั้งสำรองเป็นเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2563-2565 ในจำนวน 276 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีนี้จะเป็นการตั้งสำรองปีสุดท้าย ซึ่งเริ่มในปีหน้าก็จะไม่มีปัจจัยดังกล่าวเข้ามากดดัน จะทำให้ผลประกอบการมีทิศทางที่ดีขึ้น

 

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้า Ahlone 2 ขนาด 388 เมกะวัตต์ ในประเทศเมียนมา ซึ่งได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA จากรัฐบาลเมียนมาแล้วนั้น โดยสัญญาดังกล่าวได้รับการต่ออายุเป็นปีต่อปีแล้ว เพราะตามข้อกำหนดเดิมนั้นหลังจากที่ได้สัญญา PPA แล้ว จะต้องดำเนินการก่อสร้างในระยะเวลา 1 ปี และที่ผ่านมาบริษัทก็มีการติดต่อประสานงานกับกระทรวงไฟฟ้าของเมียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้รอให้สถาบันการเงินให้ความเห็นชอบในการปล่อยกู้เสียก่อน

 

**โบรกแนะนำซื้อ

 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น TTCL โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 6.10 บาทต่อหุ้น หลังจากที่บริษัทได้งานก่อสร้างโรงงานผลิตผงคาร์บอน ทำให้งานในมือเพิ่มเป็น 22,500 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 6 ปี โดยแนวโน้มผลประกอบการปกติในครึ่งปีหลัง ไม่น่าจะแตกต่างจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างมีสาระสำคัญ โดยรายได้ธุรกิจ EPC อยู่ในกรอบ 2,500-3,000ล้านบาทต่อไตรมาส และมี Gross Margin อยู่ในช่วง 5-8% ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A ทรงตัวใกล้เคียง 240 ล้านบาทต่อไตรมาส เนื่องจาก TTCL ต้องมีการตั้งสำรองด้อยค่าตามมาตรฐาน TFRS9 ทำให้ TTCL ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลขาดทุนสุทธิได้เล็กน้อยในแต่ละไตรมาส

 

อย่างไรก็ตาม ภาระการด้อยค่าตามมาตรฐาน TFRS9 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในปีนี้หลังต้องแบกรับภาระดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2563 จะทำให้ TTCL พลิกกลับมามีผลการดำเนินงานปกติเป็นบวกได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง