รีเซต

ไข้เลือดออกระบาดหนัก โลกร้อนยิ่งเร่งความรุนแรง

ไข้เลือดออกระบาดหนัก  โลกร้อนยิ่งเร่งความรุนแรง
TNN ช่อง16
18 สิงหาคม 2568 ( 12:30 )
31

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การระบาดของโรคไข้เลือดออกในหมู่เกาะแปซิฟิกกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในซามัว ฟิจิ และตองกา ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ขณะที่หลายประเทศประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้โรคติดเชื้อชนิดนี้และโรคอื่น ๆ กลายเป็นปัญหาที่ “พบได้บ่อยและรุนแรงมากขึ้น”

ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังอาการป่วยกลุ่มภูมิภาคแปซิฟิก (PSSS) ซึ่งทำงานร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์กรต่าง ๆ ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา มีผู้ป่วยไข้เลือดออกยืนยันแล้ว 16,502 ราย และเสียชีวิต 17 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อในภูมิภาคนี้สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โดยเฉพาะซามัว ฟิจิ และตองกาที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

ดร. “พอล่า วิเวลิ” รองผู้อำนวยการทั่วไปของชุมชนแปซิฟิก (SPC) กล่าวว่า ในอดีตการระบาดของไข้เลือดออกมักเกิดเป็นฤดูกาล แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ฤดูการระบาดยาวนานขึ้นและบางพื้นที่มีความเสี่ยงตลอดทั้งปี ซึ่งไข้เลือดออกเป็นโรคไวรัสที่แพร่โดยยุงลายพันธุ์ Aedes มีอาการไข้สูง ปวดหัวรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อและข้อ ผื่น และในบางกรณีอาจถึงแก่ชีวิต อุณหภูมิที่สูงขึ้น ปริมาณฝน และความชื้นที่เพิ่มขึ้น สร้างสภาพแวดล้อมเหมาะสมให้ยุงวางไข่และขยายพันธุ์ได้ดี แม้ในพื้นที่ที่เคยไม่เหมาะสมก็ตาม

ดร. โจเอล คอฟแมน นักระบาดวิทยาและผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาโรค สิ่งแวดล้อม และจีโนม มหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝนที่สูงขึ้นช่วยให้น้ำท่วมไข่ยุงที่วางไว้บนผิวดินทำให้ฟักตัวได้มากขึ้น อีกทั้งน้ำขังตามจุดต่าง ๆ ยังก่อให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงยังเร่งการแพร่ระบาดของโรคที่มียุงเป็นพาหะ แม้สภาพอากาศแห้งแล้งในบางพื้นที่ของแปซิฟิกในช่วงครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2568 ก็ไม่ได้ลดการแพร่เชื้อแต่อย่างใด แต่กลับเร่งความรุนแรงของโรค

อย่าง “ซามัว” ได้ประกาศสถานการณ์โรคระบาดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิต 6 ราย และมีผู้ติดเชื้อกว่า 5,600 ราย “ฟิจิ” รายงานผู้เสียชีวิต 8 ราย และผู้ป่วยกว่า 10,969 ราย ขณะที่ “ตองกา” มีผู้ป่วยมากกว่า 800 รายและเสียชีวิต 3 รายตั้งแต่ประกาศโรคระบาดในเดือนกุมภาพันธ์

หมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกเพียง 0.03% เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากภัยสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ เช่น โรคที่แพร่โดยแมลงพาหะ และในช่วงเดือนที่ผ่านมา หมู่เกาะหลายแห่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักอย่างรุนแรง เช่น ปะเลา ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะโซโลมอน ขณะที่หลายพื้นที่ในหมู่เกาะมาร์แชล ปาปัวนิวกินี นาวรู และฟิจิประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง ซึ่งแนวโน้มเช่นนี้จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม ตามรายงานของสถาบันวิจัยน้ำและบรรยากาศแห่งนิวซีแลนด์ (NIWA)

หลายประเทศในภูมิภาคตอบสนองต่อสถานการณ์ด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น ซามัว หมู่เกาะคุก และอเมริกันซามัวประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หมู่เกาะคุกจัดกิจกรรมทำความสะอาดทั่วเกาะ เพิ่มการเฝ้าระวัง และพ่นสารกำจัดยุง ตองกาทำงานร่วมกับองค์การอนามัยโลกเพื่อเสริมกำลังรับมือโรคระบาด ส่วนตูวาลูใช้โซเชียลมีเดียและแคมเปญรณรงค์ด้านสุขภาพ ส่วนซามัวจัดกิจกรรมทำความสะอาดในโรงเรียนและเพิ่มการประชาสัมพันธ์ด้านสุขภาพ นิวซีแลนด์ส่งทีมแพทย์ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่า 10.5 ล้านบาท และเจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือซามัว

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าระบบเฝ้าระวังโรคในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมการระบาดของไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน ดร. บ็อบบี้ รีเนอร์ นักนิเวศวิทยาโรคจากสถาบันประเมินสุขภาพ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน กล่าวว่ามาตรการควบคุมยุง เช่น การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ การใช้สารกำจัดลูกน้ำหรือพ่นสารเคมี รวมถึงการควบคุมทางชีวภาพและการรณรงค์ชุมชน ป้องกันการถูกยุงกัดล้วนจำเป็น แต่หลายวิธียังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสามารถลดการแพร่เชื้อได้จริง และการตอบสนองมักเป็นไปในลักษณะรับมือหลังเกิดโรคระบาดแล้ว ซึ่งเสียเวลาและทรัพยากรอย่างมาก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง