‘ซีแพนเนล’ ชี้ตลาดอสังหาฯ กำลังฟื้น ตอบโจทย์ธุรกิจ ตั้งเป้าโตนิวไฮ 2 ปีซ้อน
นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการดำเนินงาน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายผลประกอบการทำระดับสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 25%
ซึ่งแผนการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ จะดำเนินการพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องการออกแบบ ความรวดเร็ว ปริมาณ และคุณภาพ Precast Concrete หรือแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงลดความผิดพลาด ความสูญเสียในการผลิต โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (แบคล็อก) ประมาณ 1,190 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 74% แนวสูง 16% ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 3 ปี รวมถึงในช่วงไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างรอสัญญาจากลูกค้าแนวราบ 4 ราย แนวสูง 2 ราย มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาทด้วย
นายชาคริต กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการประสานงานกับลูกค้า การบริหารจัดการภายใน ลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่างๆ ส่งผลให้บริษัทฯ มีความสามารถการทำกำไรมากขึ้น ส่วนแผนการขยายฐานลูกค้า บริษัทฯ ยังคงรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และเดินหน้าทำตลาดแนะนำผลิตภัณฑ์กับลูกค้ารายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นกลุ่มผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มขยายโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง
โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัว กำลังซื้อผู้บริโภคกลับมาในหลายพื้นที่ รวมถึงภาครัฐมีการปลดล็อกมาตรการแอลทีวี ส่งผลให้โครงการบ้านยังเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของบริษัทฯ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จึงวางแผนการลงทุนโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปมากขึ้น
“แนวโน้มการฟื้นตัวของอสังหาฯ คาดว่าการแข่งขันของผู้ประกอบการจะยิ่งสูงขึ้น โดยต้องการความรวดเร็วในการส่งมอบงานได้ทันเวลา ลดต้นทุนการก่อสร้าง ลดจำนวนแรงงาน รวมถึงสามารถรักษาเงินทุนหมุนเวียน (Working Cap) ในการดำเนินงานได้
โดยแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ดี เนื่องจากเทคโนโลยีกระบวนการผลิตที่สั้น ตั้งแต่ออกแบบจนถึงส่งมอบบ้านหลังแรกได้ภายใน 15 วันและหลังถัดไปได้ประมาณ 7 วันนับจากวันที่ลูกค้ายืนยันแบบของบริษัทฯ จึงได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชาคริต กล่าว