จับตาเศรษฐกิจ : จีนปรับปรุงสารพัดนโยบาย หนุนพัฒนาภาค 'อสังหาริมทรัพย์'
(แฟ้มภาพซินหัว : หมู่อาคารสำนักงานในย่านเดอะบันด์ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน วันที่ 21 เม.ย. 2022)[/caption]
ปักกิ่ง, 3 ต.ค. (ซินหัว) -- จีนออกนโยบายส่งเสริมตลาดการค้าที่อยู่อาศัยและกระตุ้นการพัฒนาอันดีของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งครอบคลุมนโยบายผ่อนปรนข้อจำกัดการแบ่งแยกผู้ซื้อบ้านหลังแรก ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมือหนึ่งที่มีอยู่ และเพิ่มแรงจูงใจทางภาษีการประชุมระดับสูงของทางการจีนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญ พร้อมเรียกร้องการปรับเปลี่ยนและการยกระดับนโยบายในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างทันท่วงทีเหล่านักวิเคราะห์มองว่าสัญญาณเชิงบวกจากการประชุมครั้งสำคัญได้กระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และจีนได้ใช้ประโยชน์จากชุดเครื่องมือเชิงนโยบายมาตอบสนองความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนและความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นเมื่อปลายเดือนสิงหาคม กระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง-ชนบทของจีน ได้เสนอตัวเลือกนโยบายแก่รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งจะถือให้ครัวเรือนที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองในบางท้องที่เป็นผู้ซื้อบ้านหลังแรกในท้องที่นั้นๆ เมื่อดำเนินการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารก่อนหน้านี้ผู้ซื้อบ้านจะถูกจัดเป็นผู้ซื้อบ้านหลังที่สอง หากเขาหรือเธอมีประวัติการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือกรรมสิทธิ์ถือครองบ้านอยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนการวางเงินดาวน์และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่สองนั้นสูงกว่าของผู้ซื้อบ้านหลังแรกการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ข้างต้นถูกประยุกต์ใช้ในหลายเมืองของจีนในสัปดาห์ถัดมา ครอบคลุมเมืองระดับหนึ่ง (first-tier) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเซินเจิ้น ที่ซึ่งการสนับสนุนเชิงนโยบายเริ่มต้นแสดงผลลัพธ์ให้เกิดการซื้อขายเพิ่มขึ้นกวนชง ผู้จัดการทั่วไประดับภูมิภาคจีนตะวันออกของไชน่า จินเม่า (China Jinmao) เผยว่าข้อกำหนดการวางเงินดาวน์ต่ำลงได้กระตุ้นการซื้อขาย โดยหนึ่งในโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทมีปริมาณการเข้าชมรายวันและการซื้อขายขยายตัวร้อยละ 150-200 ในช่วงสุดสัปดาห์หลังจากมีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ข้างต้นทั้งนี้ รายงานจากสถาบันวิจัยอสังหาริมทรัพย์ ไชน่า อินเด็กซ์ อะคาเดมี (China Index Academy) ระบุว่ายอดจำหน่ายรวมของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 100 อันดับแรกของจีน ช่วงเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.8 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือนหลี่อวี่เจีย หัวหน้านักวิจัยประจำศูนย์วิจัยนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งกว่างตง กล่าวว่าแรงจูงใจทางนโยบายสามารถกระตุ้นอุปสงค์ในหมู่ผู้เดินทางข้ามเมืองหรือผู้ที่กำลังอยากยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ นำสู่การส่งเสริมวงจรการเติบโตของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือจากการผ่อนปรนกฎระเบียบด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยแล้ว จีนยังประกาศแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่สำหรับการซื้อบ้านหลังแรก ซึ่งกลุ่มนักวิเคราะห์มองว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้กู้ยืมราว 40 ล้านราย ขณะยอดสินเชื่อบ้านส่วนบุคคลคงค้างของจีนรวมอยู่ที่ 38.6 ล้านล้านหยวน (ราว 195 ล้านล้านบาท) เมื่อนับถึงสิ้นเดือนมิถุนายนเฉินเหวินจิ้ง ผู้อำนวยการวิจัยประจำไชน่า อินเด็กซ์ อะคาเดมี กล่าวว่าการปรับลดดอกเบี้ยให้ผู้กู้ยืมนำสู่การแบ่งเบาภาระของผู้ซื้อบ้านและเพิ่มความเต็มใจในการบริโภค รวมถึงทำให้บรรดาผู้กู้ยืมไม่ต้องรีบชำระสินเชื่อล่วงหน้ากับธนาคารพาณิชย์ขณะเดียวกันจีนได้ยกระดับการสนับสนุนทางการเงินแก่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเมื่อปลายเดือนสิงหาคม กระทรวงการคลัง ร่วมกับอีกสองหน่วยงานรัฐบาล ประกาศการขยายระยะเวลาของมาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งใช้ครั้งแรกในปี 2022 และเดิมทีมีกำหนดสิ้นสุดปี 2023 ให้สิ้นสุดปี 2025กระทรวงฯ ระบุว่าผู้จ่ายภาษีที่ซื้อบ้านหลังใหม่ภายในหนึ่งปีนับจากขายบ้านหลังเก่าในเมืองเดียวกัน ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2024-31 ธ.ค. 2025 จะได้รับประโยชน์จากการคืนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลที่มาจากการขายบ้านหลังเก่าเหอไต้ซิน นักวิจัยประจำสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน กล่าวว่าการขยายระยะเวลาของนโยบายจูงใจจะสนับสนุนประชาชนปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ รักษาเสถียรภาพของความคาดหวัง และกระตุ้นความเชื่อมั่นซ่งหงเว่ย ผู้อำนวยการวิจัยของบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ทอสเปอร์ (Tospur) กล่าวว่าเมืองระดับหนึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย ทำให้ยอดจำหน่ายบ้านปัจจุบันและบ้านใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้มนี้จะค่อยๆ กระจายสู่เมืองเล็กกว่าแห่งอื่นๆ และทำให้ตลาดบ้านที่อยู่อาศัยคึกคักเพิ่มขึ้นอย่างไรก็ดี หลี่อวี่เจียชี้ว่าทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ยังต้องการมาตรการต่างๆ มากระตุ้นการพัฒนาอันดีและมีเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยควรส่งเสริมนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งราคาจำหน่ายอันสมเหตุสมผล และพยายามเพิ่มรายได้ของผู้อยู่อาศัยและการจ้างงาน