กำนันผิดหวัง ราคาลำไยตกต่ำ เททิ้งหมด ฝากถึงรมว.พาณิชย์ ไหนบอกจะช่วยชาวบ้าน

กำนันสุดทน บรรทุกลำไยมาขาย ผิดหวังราคาตก เปิดถุงเททิ้งหมด ถามถึงรมว.พาณิชย์ รับปากกับชาวบ้านไว้หลายอย่าง แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังประสบปัญหาอยู่

วันที่ 23 ส.คง 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Sumalee Rueankawe" โพสต์คลิปเหตุการณ์ชายชาวสวนลำไยรายหนึ่งเทลำไยที่นำไปขายทิ้ง บริเวณหน้าจุดรับซื้อแห่งหนึ่งในอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่บรรทุกลำไยที่เก็บจากสวนเต็มท้ายรถกระบะนำไปส่งขายที่จุดรับซื้อ แต่ราคารับซื้อลำไยเกรด Aอยู่ที่เพียงกิโลกรัมละ 5 บาท เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาก จึงตัดสินใจเทลำไยทิ้งบริเวณหน้าจุดรับซื้อ พร้อมกับตัดพ้อถึงความเดือดร้อนยากลำบากของชาวสวน

โดยผู้โพสต์คลิประบุข้อความว่า "ตายแล้วปี้น้องเกษตรกรสวนลำไยเมืองป้าวภาคเหนือตอนบน อยู่บ่ะได้แล้วมันจะต้องทำจาไดเบอร์Aราคา 5 บาท แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ค่าปุ๋ยค่ายา ค่าแรงงาน ไผคิดเห็นจาไดกันผ้อง นี่คือเสียงสะท้อนของจาวสวนลำไย ลำไยถูกเหลือกะปิ ถูกกว่าปลาร้า แหมเน้อวันนี้นา นี่คือจุดเริ่มต้น หากไผสนใจในที่มาที่ไป วันพรุ่งนี้18.00 น. เรียนเชิญทุกคนเข้ามาฟังตวยกันได้เน้อเจ้าที่สหกรณ์หอมหัวใหญ่ ต.ป่าตุ้ม"

จากการสอบถามผู้โพสต์ คือ นางสุมาลี เรือนแก้ว ชาวสวนลำไยอำเภอพร้าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตามคลิปที่โพสต์นั้น เกิดขึ้นช่วงค่ำวานนี้ วันที่ 22 ส.ค บริเวณหน้าจุดรับซื้อลำไยแห่งหนึ่ง ในอำเภอพร้าว โดยระหว่างที่ตัวเองเข้าไปสำรวจราคารับซื้อลำไย เพราะเตรียมที่จะเก็บจากสวนมาขายนั้น ผู้ชายในคลิปนั้น ซึ่งเป็นกำนันตำบลป่าตุ้ม และมีอาชีพทำสวนได้นำลำไยมาขาย แต่พบว่าขายได้เพียงกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มค่าต้นทุนเลย

จึงเทลำไยทั้งหมดทิ้งแทนที่จะขาย พร้อมกับตัดพ้อถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเกี่ยวกับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย โดยตัวเองได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปเผยแพร่ดังกล่าวเพื่อหวังเป็นภาพสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเองมีลำไยที่ปลูกอยู่ประมาณ 10 ไร่ จำนวนประมาณ 200 ต้น อยู่ระหว่างรอเก็บ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ราคาตกต่ำเช่นนี้แล้ว กำลังคิดว่าอาจจะไม่เก็บและปล่อยให้ลำไยเน่าคาต้นไปเลย เพราะไม่คุ้มค่าต้นทุนและไม่อยากขาดทุนมากกว่าไปกว่านี้แล้ว

ด้าน นายสมิง ถนอมบุญ กำนันตำบลป่าตุ้ม อำเภอพร้าว กล่าวว่า เก็บลำไยจากสวนนำไปขายที่จุดรับซื้อ รู้สึกผิดหวังอย่างมากเมื่อพบว่าราคาลำไยเกรด A ที่นำไปขายนั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น ในขณะที่ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยกิโลกรัมละกว่า 10 บาทแล้ว ด้วยความอัดอั้นตันใจของตัวเองในฐานะเกษตรกรชาวสวนลำไย ที่เชื่อว่าทุกคนรู้สึกเดือดร้อนไม่ต่างกัน จึงตัดสินใจเทลำไยที่นำไปขายทิ้งทั้งหมด

เพราะต้องการจะส่งเสียงสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นออกไปให้ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและหน่วยงานเกี่ยวข้องได้รับรู้และลงมาแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่เคยมาลงพื้นที่หาเสียงในอำเภอพร้าวและรับปากกับชาวบ้านไว้หลายอย่าง แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังประสบปัญหาอยู่ ซึ่งยอมรับว่าเวลานี้ไม่คาดหวังว่าจะได้รับช่วยเหลือใด ๆ และทำได้เพียงช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด โดยลำไยที่ปลูกอยู่ประมาณ 20 ไร่ และกำลังเก็บเกี่ยว เวลานี้ต้องใช้แรงงานคนในครอบครัวทั้งหมด เพราะไม่มีเงินจ้างแรงงาน และหากขายได้ราคาเท่าไรก็ยอมรับสภาพไปตามนั้น แม้ว่าจะต้องขาดทุนก็ตาม