รฟม.ลั่นกลางปี’64 ชงครม.ไฟเขียวผุดโมโนเรลภูเก็ต คาดเปิดให้บริการปี’69
รฟม.ลั่นกลางปี’64 ชงครม.ไฟเขียวผุดโมโนเรลภูเก็ต คาดเปิดให้บริการปี’69 - กรอบวงเงินลงทุนโครงการเบื้องต้นประมาณ 35,201 ล้าน ค่าโดยสารสูงสุดประมาณ 35-140 บาท/เที่ยว
ชงผุดโมโนเรลภูเก็ต - นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2563 ร่วมกับ นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดการประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็น โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ที่โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและรับฟังข้อมูล ข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ ตัวแทนภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้สนใจในจ.ภูเก็ต เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการดำเนินโครงการ โดยรูปแบบของโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตนั้น ถูกออกแบบให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT/Tram) แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง มีระยะทางประมาณ 42 กิโลเมตร มีจำนวนสถานีทั้งหมด 21 สถานี
แบ่งเป็นสถานีระดับพื้นดิน 19 สถานี สถานียกระดับ 1 สถานี และสถานีใต้ดิน 1 สถานี และระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ มีระยะทางประมาณ 16.5 กิโลเมตร ซึ่งรฟม. จะเริ่มดำเนินการโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ก่อน โดยมีกรอบวงเงินลงทุนโครงการเบื้องต้นประมาณ 35,201 ล้านบาท มีการกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุดประมาณ 35-140 บาทต่อเที่ยว ซึ่งจาก ผลการศึกษาพบว่า โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 ให้ผลตอบแทนการลงทุนทางเศรษฐศาสตร์ประมาณ 13.11%
ที่ผ่านมาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงรายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงได้ดำเนินการจัดการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนแล้วทั้งสิ้น 4 ครั้ง ก่อนที่กระทรวงคมนาคมจะมอบหมายให้ รฟม. เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการต่อไป โดยที่ผ่านมา รฟม. ได้ดำเนินการจัดงานสัมมนาทดสอบความสนใจของภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) จำนวนทั้งสิ้น 2 ครั้ง ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งได้ทบทวนผลการศึกษาเดิมของ สนข. และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงรูปแบบโครงการให้เป็นปัจจุบัน
“หลังจากนี้ รฟม. จะนำข้อมูลและข้อคิดเห็นจากการประชุม ไปประกอบการเสนอเห็นชอบหลักการและผลการศึกษาวิเคราะห์โครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบราวกลางปี 2564 รวมถึงประกาศเชิญชวนคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนภายในปี 2565 เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการและสามารถเปิดให้บริการได้ ภายในปี 2569”