รีเซต

ดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง ดีต่อตลาด EM การเงิน-อสังหาฯ-แบงก์ รับ Fund Flow

ดอกเบี้ยสหรัฐฯขาลง ดีต่อตลาด EM การเงิน-อสังหาฯ-แบงก์ รับ Fund Flow
ทันหุ้น
19 กันยายน 2567 ( 12:18 )
4

 

#FED #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย

 

ดอกเบี้ยขาลงยืนยันปรับหน้าการลงทุนโลก

บล.กสิกรไทยระบุว่า Fed ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 50bps จาก 5.50% เป็น 5.00% มากกว่าที่ตลาดมองไว้ที่ 25bps อีกทั้งมีการปรับลดคาดอัตราดอกเบี้ย ณ สิ้นปี 67-68 ลงอย่างมาก

 

ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ทีละ 50bps อาจเป็ญสัญญาณไม่ดีสำหรับสหรัฐฯ แต่มองเป็นบวกต่อ EM รวมถึง SET จากการหมุน fund flow

 

คาดกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีมูลค่าหุ้นต่ำและอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงจะปรับตัวขึ้นได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน อสังหาฯ ธนาคารและ ICT

 

Key Highlights

Fed เริ่มวัฏจักรการผ่อนคลายด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50bps Fed ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยลดมากถึง 50bps จาก 5.50% เป็น 5.00% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะปรับลด 25bps มาอยู่ที่ 5.25% นอกจากนี้ คาดการณ์ FOMC dot plot ยังบ่งชี้ว่า Fed อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแตะ 4.4% ในช่วงสิ้นปี 2567 (เทียบกับคาดการณ์เดิมที่ 5.1%) และ 3.4% ในปี 2568 (เทียบกับคาดการณ์เดิมที่ 4.1%) โดยในแถลงการณ์ได้แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มากขึ้นของคณะกรรมการต่อทิศทางเงินเฟ้อซึ่งปรับตัวเข้าใกล้กรอบเป้าหมายที่ 2%

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังยอมรับว่าภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับแถลงการณ์ก่อนหน้า อย่างไรก็ดี พาวเวลล์กล่าวในช่วงถาม-ตอบ ระหว่างการแถลงข่าวว่าการลดอัดราดอกเบี้ยลงแรง 50bps เป็นเพียงการปรับจูนนโยบายให้เหมาะสม หรือ policy recalibration เท่านั้น โดยมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง

 

Implication and Recommendation

การลดดอกเบี้ยลงแรงมองเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็น Fed เลือกที่จะเริ่มผ่อนคลายวัฏจักรการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 50bps เว้นแต่ว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยในวัฏจักรการผ่อนคลายของ Fed 5 ครั้งล่าสุดหรือในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เราพบว่า Fed เริ่มผ่อนคลายวัฏจักรด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 50bps แบบนี้เพียงแค่ในปี 2544 และ 2550 เท่านั้นและสุดท้ายในวัฏจักรนั้นตลาดทุนก็จบรอบได้ไม่ดี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติดอทคอมและซับไพร์ม เรามองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยลงดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย หากปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งผลต่อเนื่องถึงภาวะเศรษฐกิจโลก

 

คาด SET index มีแนวโน้มที่จะตอบรับในเชิงบวก

เนื่องจาก Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินอื่น สถานการณ์เช่นนี้มักดึงดูด fund flow เข้ามายังตลาดเกิดใหม่รวมถึงตลาดทุนไทย โดยเฉลี่ยในช่วงวัฏจักรการผ่อนคลายของ Fed 5 ครั้งที่ผ่านมา เราพบว่า SET Index มักจะให้ผลตอบเป็นบวกในช่วง 1-2 เดือนหลัง Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรก และผลตอบแทนเชิงบวกมีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นหากการลดดอกเบี้ยของ Fed ไม่ได้ตามด้วยการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้นในไทย ขณะที่โดยเฉลี่ยในช่วงวัฏจักรการผ่อนคลายของ Fed 5ครั้งที่ผ่านมา S&P 500 ก็ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วง 1-2 เดือน หลัง Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรก อย่างไรก็ดี ระดับของผลตอบแทนเชิงบวกของ S&P 500นั้นน้อยกว่าของ SET Index มาก แม้ในกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯไม่เกิดภาวะถดถอยหลังจากการลดดอกเบี้ยก็ตาม

 

คาดหุ้นกลุ่มเน้นมูลค่าจะปรับตัวขึ้นได้ดี

บล.กสิกรไทยคาดว่ากลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีมูลค่าหุ้นที่ต่ำและอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงจะทำผลงานได้ดีกว่าเนื่องจากมีแนวโน้มที่จะดึงดูด fund flow ต่างชาติได้ หลัง Fed ลดอัตราดอกเบี้ยลง ข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่ากลุ่มที่จะทำผลงานได้ดีหลัง Fed ลงอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรก ได้แก่ กลุ่มการเงิน (TIDLOR และMTC), กลุ่มอสังหาฯ (AP และ SPALI), กลุ่มธนาคาร (KTB และ BBL) และกลุ่ม ICT (TRUE และ INTUCH)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง