หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันคืออะไร? สัญญาณเตือน อาการ และวิธีป้องกัน

หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภัยเงียบที่อาจพรากชีวิตภายในไม่กี่นาที รู้ทันสาเหตุ อาการ กลุ่มเสี่ยง และวิธีป้องกันก่อนสาย
หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันคืออะไร? รู้จักภาวะเสี่ยงชีวิตที่ต้องรีบพบแพทย์
หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Heart Failure) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอในทันทีทันใด ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และอาจเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
แม้หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าคือหัวใจหยุดเต้น แต่อันที่จริง ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันคือการที่กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงกะทันหัน ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดหยุดชะงัก เกิดความผิดปกติที่อวัยวะอื่นตามมาอย่างรวดเร็ว
สาเหตุของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ภาวะนี้อาจเกิดจากปัจจัยหลากหลาย โดยเฉพาะโรคพื้นฐานเรื้อรัง หรือพฤติกรรมสุขภาพที่ละเลยการดูแลหัวใจ เช่น
• โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวายเฉียบพลัน
• โรคลิ้นหัวใจรั่ว ตีบ หรือผิดปกติ
• หัวใจเต้นผิดจังหวะ
• ความดันโลหิตสูงระยะยาว
• เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
• ภาวะไตวาย
• การติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อหัวใจ
• การใช้สารเสพติด เช่น โคเคน หรือยาที่มีผลต่อหัวใจ เช่น NSAIDs หรือยารักษามะเร็งบางชนิด
อาการเตือนหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
อาการของภาวะนี้มักเกิดขึ้นเร็วและรุนแรง หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที:
• เหนื่อย หายใจลำบาก แม้ขณะพักหรือนอนราบ
• แน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอก
• ไอแรง มีเสมหะปนฟองสีขาวหรือชมพู
• เท้าบวม ขาบวม หรือหน้าท้องโตขึ้น
• น้ำหนักขึ้นเร็วผิดปกติ
• เวียนหัว หน้ามืด หรือหมดสติ
• ใจสั่น หัวใจเต้นแรงหรือไม่สม่ำเสมอ
• เหงื่อออกเยอะ ตัวเย็น คลื่นไส้ อาเจียน
ใครบ้างที่เสี่ยง?
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ได้แก่
• ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจ
• ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอายุเกิน 60 ปี
• ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง
• ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มาก
• ผู้ที่ใช้ยา หรือสารกระตุ้นที่มีผลต่อระบบหัวใจ
แนวทางการรักษาและการป้องกัน
ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนในโรงพยาบาล แพทย์อาจให้ยา ลดความดัน ให้ออกซิเจน หรือใช้เครื่องมือช่วยพยุงการทำงานของหัวใจในบางกรณี
การป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือการควบคุมโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และดูแลสุขภาพหัวใจอย่างต่อเนื่อง เช่น
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
• รับประทานอาหารไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงของเค็ม
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
• ตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ
• ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
