รวบแรงงานต่างด้าว หนีโควิดจากมาเลย์ลอบเข้าไทย

วันนี้( 25 ส.ค. 63)  เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองแงะ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน และ ชาวบ้าน ในพื้นที่ ม.4 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ว่าพบเห็นกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวนมาก บริเวณสุสานจีน ติดกับถนนกาญจนวานิช ม. 4 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา ให้รีบมาตรวจสอบ 

จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มบุคคลต้องสงสัยทั้งหมดเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เป็นชาย 12 คน หญิง 4 คน และ มีหญิงตั้งครรภ์จำนวน 2 ราย อายุครรภ์ระหว่าง 4-6 เดือน ที่ได้ลักลอบหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณริมรั้วชายแดน ไทย-มาเลเซีย ทางด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ ในพื้นที่ ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา

จากการสอบถามพูดคุยกับแรงงานต่างด้าว ที่พอจะพูดภาษาไทยได้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและกลุ่มเพื่อนทั้งหมด 16 คน เข้าไปอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย กว่า 2 ปีแล้ว บางคนก็ทำอาชีพขายผัก บางคนก็ทำงานโรงงาน บางคนก็ทำร้านอาหาร แต่เมื่อช่วงเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศมาเลเซีย ทุกคนต้องหยุดงานและโรงงานบางแห่งจึงต้องจำเป็นปิดตัวลง ทำงานให้พวกตนไม่มีงานทำและต้องหยุดงานร่วม 3 เดือนแล้ว จึงได้ชักชวนกันหนีออกจากประเทศมาเลเซียเพื่อที่จะกลับประเทศภูมิลำเนา โดยทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าที่ในฝั่งประเทศมาเลเซียคนละ 2,200 ริงกิต หรือประมาณ 15,000 บาทของไทย เพื่อให้นายหน้ามาช่องผ่านช่องทางธรรมชาติ และ จะมีนายหน้าในฝั่งไทยมารอรับ เพื่อนำไปส่งเป็นทอดๆแต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้คัดแยกกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้ง 16 คนไว้ยังบ้านพักเก่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อรอเจ้าหน้าที่จาก รพ.สะเดา มาทำการเพาะเชื้อตรวจหาเชื้อโควิด19 และ รอการผลักดันกลับประเทศปลายทางต่อไป นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

เกาะติดข่าวที่นี่