รีเซต

PTTGC เผย Q1/68 ขาดทุน 2,567.19 ลบ. รายได้การขาย 1.3 แสนลบ.

PTTGC เผย Q1/68 ขาดทุน 2,567.19 ลบ. รายได้การขาย 1.3 แสนลบ.
ทันหุ้น
13 พฤษภาคม 2568 ( 13:26 )
13

#PTTGC #ทันหุ้น-บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ไตรมาส 1/68 ขาดทุน 2,567.19 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 606.10 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/68 มีรายได้จากการขายรวม 132,547 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาส 4/67 แต่ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดโลก ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันมีความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งความกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว้า ประกอบกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศด้วยการใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ขอสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งส่งผลกดดันต่อต้นทุนและความต้องการในการบริโภค

 

ไตรมาส 1/68 บริษัทฯ รายงาน Adjusted EBITDA อยู่ที่ 5,377 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 102%จากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายและมุ่งเน้นประสิทธิภาพของบริษัทฯที่ยังคงด าเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้นจากผลประกอบการกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และโพลิเมอร์เป็นหลัก บริษัทฯมีความได้เปรียบด้านต้นทุนของโรงโอเลฟิ นส์โดยในไตรมาสนี้บริษัทฯได้รับปริมาณก๊าซอีเทนที่ใช้ในการผลิตด้วยสัดส่วนที่สูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อน

 

นอกจากนี้ในไตรมาส 4/67 บริษัทฯ มีการบันทึกรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการปรับราคาสัญญาซื้อวัตถุดิบอีเทนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ซึ่งในไตรมาสนี้ไม่มีรายการดังกล่าว ด้านอัตรากำลังการผลิตของโรงโอเลฟินส์ในไตรมาส 1/68 เฉลี่ยอยู่ที่ 80% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในอุตสาหกรรมของภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งราคาของกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ปรับสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว 

 

ทั้งนี้ มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อความกังวลของอุปสงค์ปลายทางของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมถึงอุปทานส่วนเกินที่ทำให้ผู้ผลิตในตลาดยังควบคุมระดับอัตราการผลิตอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณการขายของบริษัท allnex ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลเป็นหลัก  ประกอบกับค่าใช้จ่ายดำเนินการที่ลดลงเป็นผลจากการปรับโครงสร้างของ Vencorex

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ปรับตัวลดลงจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนที่ปรับลดลงเป็นหลัก ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมมีผลประกอบการทรงตัวโดย GRM อยู่ที่ 3.4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/68

 

บริษัทฯ รับรู้ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้จากการเปลี่ยนแปลงราคาตามสภาวะตลาด ได้แก่ ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) และการกลับรายการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (NRV Reversal) สุทธิเป็นขาดทุน 55 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยงด้านราคาสินค้าโภคภัณฑ์809 ล้านบาท กำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิผลกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็นกำไร 441 ล้านบาท รวมถึงบริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้จำนวน 138 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนจากจากผลประกอบการของบริษัทร่วมค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์โพลิโพรพิลีนที่ปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณการขายเป็นหลัก

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง