ดิสนีย์-ยูนิเวอร์แซล เตรียมฟ้อง "มิดเจอร์นีย์" ใช้ AI ละเมิดลิขสิทธิ์

ในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางในลอสแอนเจลิส ทั้งดิสนีย์และยูนิเวอร์แซลอ้างว่าเครื่องมือสร้างภาพของมิดเจอร์นีย์ทำเงินได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 9,728 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยใช้ภาพที่ละเมิดสิทธิ์ของพวกเขา และกำลังจะเปิดบริการวิดีโอในอนาคตอันใกล้
หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของดิสนีย์กล่าวว่า ยังเชื่อว่า AI สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่มีความรับผิดชอบเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้ แต่การละเมิดก็ยังเป็นการละเมิด ไม่ว่าจะทำโดยมนุษย์หรือบริษัท AI ก็ตาม
นักวิชาการด้านกฎหมายลิขสิทธิ์หลายคนมองว่า งานของมิดเจอร์นีย์จำนวนมากดูเหมือนการลอกเลียนแบบโดยตรง มากกว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ใหม่
ศาสตราจารย์ชูบา โกส จากมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ระบุว่า ภาพเหล่านี้อาจเปลี่ยนฉากหรือสถานที่ แต่แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวละครหรือบริบทเชิงสร้างสรรค์ใด ๆ
ส่วนแรนดี แมคคาร์ที ทนายด้านทรัพย์สินทางปัญญากล่าวว่า ไม่ใช่คดีที่ตัดสินได้ง่าย ๆ แม้แต่สำหรับดิสนีย์และยูนิเวอร์แซล เพราะยังมีประเด็นทางกฎหมาย เช่น เงื่อนไขการใช้งานของมิดเจอร์นีย์ และข้อยกเว้นภายใต้หลักการใช้ลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรมที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด
มิดเจอร์นีย์ ซึ่งก่อตั้งโดย เดวิด โฮลซ์ อดีตผู้ก่อตั้ง Leap Motion ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ ต่อคดีนี้ โดยบริษัทมีพนักงานเต็มเวลาน้อยกว่า 12 คน และนิยามตัวเองว่าเป็น “ห้องวิจัยอิสระ”
คดีนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างวงการบันเทิงกับ AI ที่แม้จะเห็นศักยภาพในเทคโนโลยีนี้ แต่ก็ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องผลงานสร้างสรรค์ที่เป็นทรัพย์สินของตนเอง เช่นเดียวกับที่เกิดการประท้วงใหญ่ของนักแสดงและนักเขียนในปี 2023 เพื่อเรียกร้องให้ควบคุมการใช้ AI ในอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน AI ก็ยังถูกนำมาใช้จริงแล้วในหลายวงการ เช่น การปรับเสียงในหนังเข้าชิงออสการ์อย่าง Emilia Perez และ The Brutalist หรือการลดอายุของนักแสดงดังอย่างทอม แฮงส์ และแฮร์ริสัน ฟอร์ด บนจอภาพยนตร์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
