รีเซต

ไอแพ็ดโปร2020ยืนหนึ่ง‘แท็บเล็ต’ดีสุด

ไอแพ็ดโปร2020ยืนหนึ่ง‘แท็บเล็ต’ดีสุด
ข่าวสด
13 เมษายน 2563 ( 11:00 )
449
ไอแพ็ดโปร2020ยืนหนึ่ง‘แท็บเล็ต’ดีสุด

 

ไอแพ็ดโปร2020ยืนหนึ่ง‘แท็บเล็ต’ดีสุด - iPad Pro 2020 จากค่ายแอปเปิ้ล ไอทียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ เป็นภาคต่อความสำเร็จของหนึ่งในแท็บเล็ตที่ได้รับคำชมเชยจากนักรีวิวทั่วโลกว่ายอดเยี่ยมที่สุด

 

ไม่ว่าจะทั้งในแง่ประโยชน์ใช้สอย ความสะดวกในการทำงาน ระยะเวลาแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และศักยภาพแทนที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก

ไอแพ็ด โปร 2020

 

มาครั้งนี้ทางแอปเปิ้ล ต่อยอดสิ่งที่ดีที่สุดทั้งหมดที่กล่าวมา แต่รวมเอาประสิทธิภาพการคำนวณที่ทรงพลังมากกว่าครั้งไหนๆ เข้าไป เว็บไซต์ทอมส์ไกด์ กล่าวถึงไอแพ็ด โปรใหม่ไว้ ดังนี้

 

จุดเด่นของ ไอแพ็ด โปร รุ่นใหม่นี้มีดีที่ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว เพราะได้ขุมพลังใหม่เป็นชิพประมวลผล (SoC) รุ่น เอ12ซี ไบโอนิก (A12Z Bionic) ภายในมีหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 8 หัว (Octacore) พร้อมกล้องถ่ายภาพใหม่แบบเลนส์คู่ รวมถึงเลนส์อัลตราวาย และเซ็นเซอร์จับระยะทางลึกแบบใหม่ (Time-of-Flight) หรือทีโอเอฟ แอปเปิ้ลเรียกว่า ไลดาร์ (LiDAR) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองให้กับแอพพลิเคชั่นด้านอักเมนต์เรียลลิตี้ หรือเออาร์

 

กล่าวคือ การสร้างภาพจำลองกราฟิกขึ้นมาในสภาพแวดล้อมจริง แตกต่างจากเวอร์ช่วล เรียลลิตี้ หรือวีอาร์ ที่เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมใหม่ขึ้นมาทั้งหมดโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมจริงรอบๆ

โมดูลกล้อง

 

เริ่มที่การออกแบบก่อน ไอแพ็ด โปรใหม่ ยังคงใช้การออกแบบตามเดิมเหมือนกันกับรุ่นก่อนแทบทุกประการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร เพราะไอแพ็ด โปรรุ่นก่อนหน้านี้มีการออกแบบภายนอกเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว ที่แทบจะกินพื้นที่หน้าจอทั้งหมดจนหาขอบเหลือนิดเดียวทั้ง 4 ด้าน รวมไปถึงการตัดขอบให้โค้งมนแลดูเรียบหรู

 

แต่แน่นอนว่าจุดที่แตกต่างกันชัดเจนมากที่สุดเป็นโมดูลของกล้องถ่ายภาพที่ด้านหลังเครื่องที่เป็นสี่เหลี่ยมตัดขอบโค้งนูนออกมาจากเรื่องเล็กน้อย ภายในมีเลนส์กลมๆ ของกล้องอยู่ 2 เลนส์ และอีกจุดเป็นเซ็นเซอร์ LiDAR ลักษณะคล้ายกันกับ iPhone 11 Pro

 

เมจิก คีย์บอร์ด

 

ด้านข้างตัวเครื่องมีแถบแม่เหล็กสำหรับติดตั้งสไตลัส แอปเปิ้ล เพนซิล ส่วนพอร์ตเดียวที่มีอยู่ที่ด้านล่างของเครื่องเป็น USB-C ใช้สำหรับชาร์จไฟ และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น เช่น หูฟัง ขณะที่จอด้านหน้ายังคงมีกล้องเซลฟี่สนับสนุนสีแบบ TrueDepth และเซ็นเซอร์สำหรับปลดล็อกด้วยใบหน้าผ่านระบบ Face ID

 

ไอแพ็ด โปร 2020 มีขนาดเครื่องกว้าง 8.46 ยาว 11.04 หนา 0.23 นิ้ว และมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อยอยู่ที่ 639 และ 644 กรัม สำหรับรุ่นไวไฟเท่านั้น และรุ่นรองรับไวไฟ กับสัญญาณโทรศัพท์ตามลำดับ

แทร็กแพดใหม่

 

จอภาพของเครื่องมีขนาด 12.9 นิ้ว ใช้เทคโนโลยี Liquid Retina ให้ความสว่างและสีที่สมจริง พร้อมเทคโนโลยี ProMotion เพิ่มความถี่จอภาพขึ้นไปได้ถึง 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) ช่วยให้ภาพบนจนมีความลื่นไหลเพลินตาน่ามอง

 

จากการทดสอบพบว่า มีความสว่างทั่วไปราว 559 นิต ถือว่าสว่างยิ่งกว่าแท็บเล็ตราคาแพงๆ อย่าง Surface Pro 7 (395 นิต) และจอของ Surface Pro X (417 นิต) จากไมโครซอฟท์ ทั้งยังให้ค่าสีที่กว้างถึง 129 เปอร์เซ็นต์บนมาตรฐาน sRGB รวมทั้งมีค่าความเที่ยงตรงของสีที่ใกล้เคียงกับสีจริงอย่างมากด้วย สะท้อนว่าภาพที่ได้จาก ไอแพ็ด โปร รุ่นใหม่นี้ จะแนวสมจริง เหมาะกับการทำงานตัดต่อวิดีโอแน่นอน

 

ไอแพ็ด โปร ครั้งนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iPadOS 13.4 เพิ่มฟีเจอร์สนับสนุนเมาส์ และแทร็กแพ็ด เข้ามาด้วย ถือเป็นฟีเจอร์ที่เหล่าสาวกรอกันมานาน

 

เคอร์เซอร์ของเมาส์นั้นจะปรากฏบนจอภาพชัดเจนและเปลี่ยนรูปร่างไปตามการทำงานของผู้ใช้ด้วย ขณะที่อุปกรณ์เสริมอย่าง Magic Trackpad ของแอปเปิ้ลจะจำหน่ายเร็วๆ นี้

 

แอปเปิ้ล เพ็นซิล

 

สนนราคาที่ 129 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,200 บาท

ผู้ทดสอบมองว่าขนาดใหญ่ไปเล็กน้อย ส่วนผู้ที่ต้องการใช้อุปกรณ์เสริมจากแบรนด์อื่นก็ทำได้เช่นกัน ขณะที่ฟีเจอร์อย่าง Slide Over และ Split View ก็เรียกใช้ได้ง่ายด้วยเมาส์และแทร็กแพ็ด โดยการลากแอพฯ ที่ต้องการใช้ไปใส่ขอบด้านที่ต้องการแยกแอพฯ ออกเป็นสองซีกในจอ

 

สําหรับคีย์บอร์ดมหัศจรรย์ Magic Keyboard แอปเปิ้ลระบุว่าจะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพ.ค. ถือเป็นแป้นพิมพ์แบบใหม่จากแอปเปิ้ลที่มาต่อยอดจาก Smart Keyboard Folio แต่จะมีราคาค่อนข้างสูงอยู่ที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11,000 บาท สะท้อนถึงความพรีเมียมของแป้นพิมพ์รุ่นใหม่นี้ที่จะรวมเอสแทร็กแพ็ดเข้าไว้ด้วยกัน

 

แป้นพิมพ์รุ่นใหม่นี้ ใช้กลไกของปุ่มเป็นแบบขากรรไกรเหมือนกับ MacBook Air และ MacBook Pro จอ 16 นิ้ว ส่งผลให้ประสบการณ์การพิมพ์นั้นชวนให้น่าหลงใหลด้วยระยะปุ่ม 1 มิลลิเมตร พร้อมไฟแบ๊กไลต์สีขาว และแทร็กแพ็ด รวมทั้งการติดตั้งใหม่ที่ทำให้ตัวเครื่องไอแพ็ด โปรนั้นไม่ติดกับตัวแป้น ทำให้ผู้ใช้ปรับตัวเครื่องให้หมุนได้ระหว่างองศาที่ 90 ถึง 130 นอกจากนี้ Magic Keyboard ยังมา พร้อมกับ USB-C ในตัว เพื่อไว้ชาร์จไฟ และทำให้ USB-C ของไอแพ็ด โปรนั้นใช้ทำอย่างอื่นได้

 

ภาพทดสอบทั่วไป

 

ด้านประสิทธิภาพ ไฮไลต์หลักของไอแพ็ด โปร นอกจากเป็น SoC ที่มีซีพียู แบบ 8 หัวแล้ว ยังมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ 8 หัวเช่นกัน โดยผลการทดสอบจากแอพฯ Geekbench 5 ได้คะแนนประมวลผลคอร์เดียวอยู่ที่ 1,126 แต้ม และประมวลผลหลายคอร์ที่ 4,720 แต้ม ถือว่าเหนือกว่าไอแพ็ด โปร รุ่นก่อนที่ใช้ SoC รุ่น A12X Bionic (1,114 แต้ม และ 4,635 แต้ม ตามลำดับ) ใช้เวลาโอนไฟล์คลิปวิดีโอความละเอียด 1080p ประมาณ 34 วินาที ในแอพฯ Adobe Rush ขณะที่การทดสอบกราฟิกผ่านแอพฯ BaseMark ได้คะแนน 21,009 แต้ม (รุ่นก่อนหน้าได้ 19,588 แต้ม)

 

มาถึงกล้องถ่ายภาพของไอแพ็ด โปร ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล (MP) และเลนส์อัลตราวายความละเอียด 10MP ทีเพิ่มมาใหม่ ทำให้มีโหมด 1X และ 0.5X ผลทดสอบพบว่า ภาพที่ออกมานั้นมีความคมชัดและสีอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี สีสันของวัตถุตรงกลางภาพนั้นแลดูโดดเด่นกว่าตามขอบภาพเล็กน้อย

 

ส่วนภาพที่ถ่ายภายในบ้านนั้นค่อนข้างดีมีรายละเอียดดีกว่าภาพวิวนอกอาคาร นอกจากนี้ ไอแพ็ด โปรใหม่ ยังสามารถถ่ายคลิปความละเอียด 4K ได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน หรือไนต์ โหมด

 

ภาพทดสอบในอาคาร

 

ด้านเซ็นเซอร์ LiDAR นั้นถือว่าเป็นของใหม่สำหรับแอปเปิ้ล (ToF) โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ทำหน้าที่หลักๆ ในการวัดระยะเวลาที่แสงจะตกกระทบวัตถุแล้วเดินทางมาถึงเลนส์ เพื่อทำให้อัลกอริทึมของปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ มีความเข้าใจต่อสภาพแวดล้อมได้แม่นยำมากขึ้น มีประโยชน์มากสำหรับนักพัฒนาแอพฯ ด้านเออาร์ทั้งหลาย แต่แอพฯ ด้านนี้ยังมีน้อยมาก และยังต้องรอนักพัฒนาทั้งหลายช่วยกันเข็นแอพฯ เออาร์ออกมาอยู่ คงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่

 

แอปเปิ้ล เพนซิล สไตลัส เขียนดียอดเยี่ยมของหลายคน รุ่นที่ใช้กับไอแพ็ด โปรใหม่จะต้องเป็นรุ่นสองเท่านั้น และจะชาร์จไฟก็ต่อเมื่อนำไปแปะติดไว้กับตัวเครื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานตรวจเอกสาร และงานออกแบบที่ต้องใช้การวาดบ่อยๆ ที่สุด

 

ด้านแบตเตอรี่ของไอแพ็ด โปร 2020 มีระยะเวลาใช้งานสูงสุด 10 ช.ม. สำหรับการท่องเว็บไซต์ โดยการใช้งานทั่วไปพบว่า ระบบบริหารพลังงานของเครื่องนั้นมีประสิทธิภาพสูงมากทำให้การใช้งานมีระยะเวลายาวนาน นายมาร์ก สปูนัวร์ ผู้ทดสอบจากทอมส์ไกด์ ระบุว่า หากถอดปลั๊กชาร์จเมื่อเวลา 07.00 น. และนำไปใช้งานหลายอย่าง อาทิ สตรีมวิดีโอ ถ่ายภาพ งานเอกสาร ตรวจอีเมล์ พบว่าแบตฯ ลดลงเหลือร้อยละ 39 ที่เวลาประมาณ 16.00 น.

 

ส่วนการทดสอบเปิดจอค้างไว้พบว่ามีระยะเวลาใช้งาน 10 ช.ม. 16 นาที (ความสว่าง 150 นิต บนการเชื่อมต่อไวไฟ) ถือว่าสูงกว่า Surface Pro 7 (7 ช.ม.ครึ่ง) และ Surface Pro X (9 ช.ม. กับ 45 นาที)

 

สปูนัวร์มองว่า ไอแพ็ด โปร 2020 เป็นก้าวสำคัญของผลิตภัณฑ์ไอแพ็ดของแอปเปิ้ล โดยเฉพาะฟีเจอร์เชื่อมต่อแป้นพิมพ์และแทร็กแพ็ด ทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างยิ่งต่อ Surface Pro 7 และ Surface Pro X จากไมโครซอฟท์ ทั้งยังมีจุดเด่นกว่าที่ประสิทธิภาพและการตอบสนองที่ฉับไวใช้สนุก ระยะเวลาใช้งานที่นานกว่า กล้องที่ดีกว่า รวมถึงฟีเจอร์รองรับอนาคตจากเซ็นเซอร์ LiDAR เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตทำงานและความบันเทิงที่ดีที่สุด และเช่นเดิมคือใช้แทนโน้ตบุ๊กได้

 

สนนราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท (จอ 11 นิ้ว) และ 34,900 บาท (จอ 12.9 นิ้ว) วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

 

จันท์เกษม รุณภัย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง