เก็บเห็ดพิษหน้าฝน มีพิษเสี่ยงอะไรบ้าง?
ข่าววันนี้ เก็บเห็ดพิษหน้าฝน มีพิษเสี่ยงอะไรบ้าง? ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เห็ดขึ้นเยอะ! หลายคนชื่นชอบกินอาหารป่า คือการกินเห็ด ซึ่งต้องระวังอาจเผลอเก็บเห็ดมีพิษมากินจนอาจทำให้เกิดท้องเสีย หรือเมาได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซาก เนื่องจากมีรายงานปี 2563 พบผู้ป่วยจากการเก็บเห็ดพิษกินกว่า 1,200 ราย เสียชีวิต 10 ราย ทั้งที่สามารถป้องกันได้ TrueID จะพาไปรูัจักเรื่องเห็ดพิษให้มากขึ้น จะได้ระวังไม่เก็บเห็ดมีพิษมากิน
'เก็บเห็ดพิษหน้าฝน' มีพิษเสี่ยงอะไรบ้าง?
สำหรับเห็ดพิษหลายคนอาจคิดว่าพบได้แต่ในแหล่งธรรมชาติเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วสามารถพบเห็ดพิษได้ตามสนามหญ้า ข้างถนน หรือพื้นที่รกร้าง ส่วนการเกิดพิษจากเห็ดนั้น นอกจากเป็นเพราะสารพิษของเห็ดที่เป็นพิษต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น
- เชื้อแบคทีเรียที่ติดมากับเห็ด
- สารเคมีที่ปนเปื้อน
- การดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการเก็บเห็ดบางชนิดมากิน
- ลำไส้อุดตัน
เห็ดไม่สด อันตรายหรือไม่?
ส่วนเห็ดที่ไม่สด เริ่มเน่าเปื่อยแล้ว มีโอกาสพบการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียได้มาก การดองเห็ดในขวดโหลหรือเก็บเห็ดในถุงสูญญากาศอาจทำให้เชื้อกลุ่มไม่ใช้ออกซิเจน (anaerobic) เช่น เชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เจริญเติบโต เมื่อนำมากินก็อาจได้รับพิษจากสารพิษโบทูลินัม (botulinum toxin)
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างมากหากใครคิดเก็บเห็ดที่กินได้นั้น หากเก็บเห็ดมาจากบริเวณที่มีการใช้สาเคมีต่าง ๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ย่าฆ่าหญ้า ตามข้างถนน สวนสาธารณะ หรือไร่นา ต่างมีโอกาสได้รับพิษได้เช่นเดียวกัน และไม่ควรเก็บเห็ดกินร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เนื่องจากเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดสกุลโคปรินัสบางชนิดทำให้เกิดอาการพิษที่มีความรุนแรงได้ ส่งผลทำให้มีีอาการพิษเกิดขึ้น เช่น อาเจียน หายใจขัด คลื่นไส้ หมดสติ เป็นต้น
3 กลุ่มอาการจากสารพิษของเห็ดพิษ หน้าฝน
อาการพิษที่เกิดจากการเก็บเห็ดมีพิษกิน แบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ พิษต่อเซลล์และเนื้อเยื่อที่สำคัญ พิษต่อระบบทางเดินอาหาร และพิษต่อระบบประสาท โดยเมื่อลงลึกในรายละเอียดของอาการมีดังนี้
- พิษต่อเซลล์และเนื้อเยื่อที่สำคัญ เช่น ตับ ไต ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อเหล่านี้ตาย จนเกิดอาการตับวาย ไตวาย เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ
- พิษต่อระบบทางเดินอาหาร ซึ่งพบได้บ่อย อาการอาจไม่รุนแรงมากถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาการจะคล้ายคลึงกับกรณีอาหารเป็นพิษ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย
- พิษต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการ เช่น ประสาทหลอน วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชัก และเสียชีวิตได้
ใครเก็บเห็ดมีพิษกิน ช่วยได้
หากพบผู้ป่วยจากการกินเห็ดมีพิษ จะต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อน ด้วย 6 ข้อที่ควรปฏิบัติในการช่วยเหลือ
- ให้ดื่มน้ำผสมเกลือ
- ล้วงคอทำให้อาเจียน เพื่อลดการดูดซึมของสารพิษ
- ให้กินผงถ่าน (activated charcoal) ที่ผสมกับน้ำให้ข้นเหลวคล้ายโจ๊ก (slurry) โดยผู้ใหญ่ใช้ 30-100 กรัม เด็กใช้ 15-30 กรัม เพื่อดูดสารพิษของเห็ดในทางเดินอาหาร
- ถ้าไม่มีผงถ่านก็ให้ใช้ไข่ขาวแทน
- ส่งโรงพยาบาล พร้อมกับนำตัวอย่างเห็ดที่กินไปด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบชนิดของเห็ด และวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง
ลักษณะเห็ดที่มีพิษ
การสังเกตเห็ดพิษไม่มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน เห็ดมีสีฉูดฉาดหรือสีเข้ม มีเกล็ดหรือปุ่มขรุขระอยู่บนส่วนหมวกเห็ด อาจมีวงแหวนรอบก้านเห็ด หรือลักษณะอื่น ๆ ที่ผิดจากชนิดที่เคยกิน ก็ไม่ควรเก็บหรือซื้อมากิน
ลักษณะเห็ดที่กินได้
เห็ดที่กินได้แน่นอนต้องปรุงให้สุกก่อนทุกครั้ง เพราะเห็ดที่กินได้เหล่านี้อาจมีสารพิษ แต่เป็นสารพิษที่ไม่คงตัวเมื่อถูกความร้อน การปรุงให้สุกด้วยความร้อนจะช่วยทำลายสารพิษเหล่านี้ได้
สิ่งสำคัญสำหรับคนชอบกินเห็ด คือ หากพบเห็ดที่ไม่รู้จัก ไม่เคยกิน ควรสงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นเห็ดพิษ จากนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ หลีกเหลี่ยงไม่เก็บเห็ด
วิธีป้องกันไม่ให้เจอเห็ดพิษในไทย
- กินเห็ดที่เคยกิน และมั่นใจว่าเป็นเห็ดที่กินได้เท่านั้น
- ต้องปรุงให้สุกก่อนทุกครั้ง
- ห้ามกินเห็ดสด หรือเห็ดดองโดยเด็ดขาด
- เลือกเห็ดที่มีลักษณะสดใหม่ ไม่เน่าเสีย ไม่มีเมือก
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับกินเห็ด
- ไม่กินเห็ดในคราวละมาก ๆ เพราะเห็ดเป็นอาหารที่ย่อยยาก
- ไม่ควรเก็บเห็ดที่ขึ้นตามบริเวณที่อาจมีการใช้สารเคมี เช่น สนามหญ้า ข้างถนน เป็นต้น
รู้แบบนี้แล้วก่อนเก็บเห็ดสังเกตให้ดี ๆ ไม่แน่ใจก็ไม่ควรเก็บเห็ดมากิน เพราะส่งผลเสียต่อร่างกายเกิดอาการท้องเสีย เมา และอาจเสี่ยงเกิดอันตรายได้ด้วย
ข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
ข่าวเกี่ยวข้อง :