รัฐบาลเร่งปรับแผนสำรองน้ำมัน รับมือผลกระทบจากเหตุสู้รบอิสราเอล–อิหร่าน

ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (18 มิถุนายน 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ติดตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบต่อราคาน้ำมันและเส้นทางขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน
ดำเนินมาตรการลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ล่าสุด นายพีระพันธุ์ ได้สั่งการให้ดำเนินมาตรการลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งในส่วนของน้ำมันเบนซินและดีเซล เพื่อช่วยพยุงราคาภายในประเทศ พร้อมใช้กลไกกองทุนฯ ดูแลเสถียรภาพระยะยาว โดยราคาน้ำมันดิบดูไบล่าสุดอยู่ที่ 72.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากต้นเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ประเมินปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานได้มีการประเมินปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีน้ำมันดิบคงเหลือ 3,337 ล้านลิตร ใช้ได้ 25 วัน น้ำมันระหว่างขนส่ง 2,457 ล้านลิตร ใช้ได้ 19 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1,874 ล้านลิตร ใช้ได้อีก 16 วัน รวมสำรองทั้งหมดใช้ได้ประมาณ 60 วัน หากสถานการณ์เลวร้ายลงจะมีการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มปริมาณสำรองทันที
“รัฐบาลขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการรับมือทุกความผันผวนด้านพลังงานอย่างรอบด้าน ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการของรัฐ ซึ่งจะดำเนินการอย่างทันท่วงที เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน” นางสาวศศิกานต์ ระบุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แรงงานไทยในอิสราเอลปลอดภัยทุกคน แม้สถานการณ์สู้รบตึงเครียด
เตือน! คนไทยในอิสราเอล งดแชร์ภาพ-คลิปที่พัก ใกล้พื้นที่ได้รับผลกระทบจากขีปนาวุธ
นายกฯ สั่งรับมือสถานการณ์สู้รบอิสราเอล-อิหร่านทุกมิติ ดูแลคนไทยพื้นที่เสี่ยง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
