STC ชี้ปีหน้างานรัฐทะลัก คลอดโปรดักต์ใหม่ทำเงิน

#STC #ทันหุ้น – STC เกาะติดงานรัฐคาดปี 2567 งบออกเพียบ ฟากผู้บริหารแย้มแผนปีมังกรทอง จ่อคลอดโปรดักต์ใหม่ขยายตลาดทำเงิน มองรายได้โต 10-15% รุกขยายฐานภาคตะวันออก-กลาง ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 130-140 ล้านบาท เดินหน้าขยายโรงงานอัพกำลังผลิต

นายเอกชัย  ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน) หรือ STC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป คอนกรีตผสมเสร็จ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับงานตอกเสาเข็ม และปั๊มคอนกรีต ชั้นนำ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2567 บริษัทอยู่ระหว่างพูดคุยกับทีมงาน แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันทำให้คาดเดาทิศทางธุรกิจได้ยาก เพราะสถานการณ์การลงทุนไม่ดี ซึ่งในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทมีโอกาสเติบโตได้สูงกว่านี้ แต่สถานการณ์การลงทุนต่างๆ ทำให้การเติบโตยังไม่เป็นไปตามเป้า

** จับตางบภาครัฐ

ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากโครงการภาครัฐไม่ลงทุน แต่คาดว่าในปี 2567 งบต่างๆ จากรัฐจะทยอยออกมาเป็นจำนวนมาก เพราะอั้นไว้หลายโครงการ ดังนั้นบริษัทจึงคาดทิศทางธุรกิจปี 2567 จะดีกว่าปี 2566 เพราะปี 2566 รัฐบาลเพิ่งจัดตั้งคณะทำงานสำเร็จ และคาดปี 2567 จะเริ่มดำเนินงานได้ชัดเจนขึ้น

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 บริษัทจะออกโปรดักต์ใหม่ และขยายตลาดมากขึ้น โดยการขยายตลาดเป็นหนึ่งในแผนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้เป้ามายรายได้ปี 2567 บริษัทมองคร่าวๆ ไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 10-15%จากการขายสินค้าในภาคตะวันออก และขยายฐานไปสู่ภาคกลาง

ปัจจุบันบริษัทมีจำนวน Backlog อยู่ประมาณ 130-140 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบช่วงที่เหลือประมาณ 30-40 ล้านบาท และจะทยอยส่งมอบในปี 2567 เป็นส่วนมาก สำหรับการเติบโตของบริษัทนอกจากนี้จะรับรู้จาก Backlog แล้ว แต่ละเดือนจะมีรายได้จากการขายสินค้าระหว่างเดือนเข้ามาด้วย ซึ่งงานรายเดือนจะเป็นงานระยะสั้นทำ 2-3 วันจบ

** ขยายโรงงาน

ขณะที่โรงงานที่ปทุมธานีหรือโรงงานภาคกลาง บริษัทมีกำลังผลิตต่อเดือนที่ 8 พันคิวคอนกรีต กระแสตอบรับการขายสินค้าค่อนข้างดี ปัจจุบันเดินเครื่องได้ 80% ของแผนงานที่วางไว้ และมีโอกาสจะเป็นไปได้ 100% ในช่วงไตรมาส 2/2567และบริษัทมีแผนจะขยายพื้นที่โรงงานเพิ่มเติมเพราะยังเหลือพื้นที่ 20-30 ไร่

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า บริษัทขยายโรงงานเพื่อรองรับโปรเจ็กต์หรือโครงการที่จะทยอยกลับมาในปี 2567 คาดจะเริ่มเดินเครื่องโรงงานใหม่ เฟส 5 ได้ในปี 2567 ซึ่งจะช่วยหนุนกำลังผลิตให้เพิ่มขึ้น

อนึ่ง 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้ที่ 398.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.56 ล้านบาท