รีเซต

เลือกตั้ง 2569 ศึกนโยบายแก้จน 4 พรรคใหญ่ แข่งตอบโจทย์หนี้–ปากท้องประชาชน

เลือกตั้ง 2569 ศึกนโยบายแก้จน 4 พรรคใหญ่ แข่งตอบโจทย์หนี้–ปากท้องประชาชน
TNN ช่อง16
25 ธันวาคม 2568 ( 13:53 )

การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งเกิดขึ้นหลังการยุบสภาเมื่อ 12 ธันวาคม 2568 กำลังเดินหน้าเข้าสู่โค้งสำคัญ ท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจที่เปราะบางจากหนี้ครัวเรือนระดับสูง ค่าครองชีพที่ยังตึงตัว และผลกระทบจากสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน

ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ นโยบาย “แก้จน” กลายเป็นประเด็นแข่งขันหลักของพรรคการเมือง โดยแต่ละพรรคเสนอแนวทางแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินขนาดใหญ่ การสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ไปจนถึงการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน


เพื่อไทย เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่พักหนี้

พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลเดิม ชูนโยบายแก้จนผ่านแนวคิด “ประชานิยมนวัตกรรม” โดยต่อยอดมาตรการเดิมที่เคยใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมเติมเครื่องมือใหม่เพื่อรับมือปัญหาหนี้

แกนหลักคือ Digital Wallet เฟส 3 ที่ตั้งเป้าเดินหน้าในปี 2569 ครอบคลุมประชาชนวงกว้าง เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระดับชุมชน ควบคู่กับมาตรการ พักจ่ายดอกเบี้ย 3 ปี สำหรับหนี้บ้านและรถยนต์ เพื่อให้เงินที่ผ่อนชำระถูกนำไปตัดเงินต้นโดยตรง

นอกจากนี้ เพื่อไทยยังชูนโยบายลดรายจ่ายถาวร เช่น รถไฟฟ้า 20 บาททุกสาย และโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับคนรายได้น้อย โดยหวังใช้การกระตุ้นครั้งใหญ่ช่วยประคองเศรษฐกิจและปลดล็อกกำลังซื้อของประชาชน

พรรคประชาชน สวัสดิการถ้วนหน้าแก้จนเชิงโครงสร้าง

พรรคประชาชน เสนอแนวทางต่างออกไป โดยมองว่าการแจกเงินก้อนเดียวไม่สามารถแก้ความยากจนอย่างยั่งยืนได้ พรรคจึงเน้นการสร้าง รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เป็นหลัก

นโยบายสำคัญคือการจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ รวมถึงแนวคิดบำนาญผู้สูงอายุระดับประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน เพื่อสร้างความมั่นคงทางรายได้ และลดความเสี่ยงในชีวิต

ควบคู่กัน พรรคประชาชนผลักดันการรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดอำนาจทุนผูกขาด และกระจายการลงทุนสู่ต่างจังหวัด โดยเชื่อว่าการลดต้นทุนชีวิตและเปิดโอกาสการแข่งขันอย่างเป็นธรรม จะทำให้ประชาชน “หายจน” ได้ในระยะยาว


ภูมิใจไทย ลดภาระทันที เน้นปากท้องรายวัน

พรรคภูมิใจไทย ใช้จุดแข็งจากประสบการณ์ในรัฐบาล ชูนโยบายที่ประชาชนคุ้นเคยและเห็นผลเร็ว ภายใต้แนวคิด “พูดแล้วทำ พลัส”

นโยบายเด่นคือ คนละครึ่ง พลัส ที่เตรียมนำกลับมาใช้เพื่อลดค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน เสริมด้วยมาตรการ พักหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นเวลา 3 ปี ครอบคลุมลูกหนี้รายย่อยหลายกลุ่ม

อีกด้านหนึ่ง ภูมิใจไทยเสนอแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว เปิดให้ประชาชนขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์คืนรัฐโดยตรง และตั้งเป้าลดค่าไฟฟ้าเฉลี่ย เพื่อช่วยทั้งลดรายจ่ายและสร้างรายได้เสริมให้ครัวเรือน

ประชาธิปัตย์ ย้ำประกันรายได้และเศรษฐกิจฐานราก

พรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าภายใต้สโลแกน “ไทยหายจน” โดยยึดแนวทางที่เคยดำเนินการมาก่อน

หัวใจสำคัญคือ ประกันรายได้เกษตรกร สำหรับพืชเศรษฐกิจหลัก เพื่อให้รายได้ถึงมือเกษตรกรโดยตรง ขณะเดียวกัน พรรคเสนอการตั้งกองทุนสนับสนุน SME และธุรกิจชุมชน เพื่อสร้างการจ้างงานและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระยะยาว

แนวคิดของประชาธิปัตย์เน้นความรอบคอบทางการคลัง และการแก้ปัญหาความยากจนผ่านระบบเศรษฐกิจฐานรากมากกว่าการอัดฉีดเม็ดเงินขนาดใหญ่

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง