เดนมาร์กระงับใช้วัคซีนโควิด-19 'แอสตราเซเนกา' หลังพบ 'เลือดแข็งตัว'
โคเปนเฮเกน, 11 มี.ค. (ซินหัว) -- แถลงการณ์จากองค์การสาธารณสุขเดนมาร์กเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ระบุการระงับใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด (University of Oxford) เป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงร้ายแรง
หน่วยงานกำกับดูแลยาเดนมาร์ก สังกัดองค์การฯ ออกคำสั่งระงับดังกล่าว โดยอ้างอิง "ความกังวลของหน่วยงาน" และ "หลักการเฝ้าระวัง" หลังมีรายงานกรณีผู้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกาเกิดอาการเลือดแข็งตัวหลายราย
ขณะองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ดำเนินการสืบสวนวัคซีนของแอสตราเซเนกา และมีรายงานพบผู้ป่วยเสียชีวิตหนึ่งรายในเดนมาร์ก องค์การสาธารณสุขเดนมาร์กไม่สามารถสรุปได้ว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีอาการเลือดแข็งตัว
ข้อมูลจากสถาบัน สแตเทนส์ เซรุม (Statens Serum Institut) เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ระบุว่าเดนมาร์กฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้ว 560,656 คน โดยร้อยละ 25.3 รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา ขณะอีกร้อยละ 4 รับวัคซีนของโมเดอร์นา (Moderna) และร้อยละ 70.7 รับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNtech)