ผวจ.ราชบุรี ประชุมเข้ม หลังพบนักเรียนติดโควิดพุ่งกว่า 300
เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมีแพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด พร้อมด้วยนายอำเภอ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัด โดยที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ละพื้นที่และมาตรการเฝ้าระวัง คุมเข้มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.ปากท่อ มีรายงานพบโรงเรียนธรรมจารินีวิทยา เป็นโรงเรียนประจำ ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลปากท่อ อ.ปากท่อ ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 1,055 ราย เป็นผู้หญิงล้วน มีบุคลากรครูทั้งหมด 92 ราย มีนักเรียนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก
แพทย์หญิงปาจารีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ราชบุรี ได้ให้ข้อมูลในที่ประชุมว่า ขณะนี้พบนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนประจำ แต่ทางโรงเรียนได้ปล่อยให้กลับไปเที่ยวบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ และให้กลับมาในวันที่ 16 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนจะเข้าเรียนทางโรงเรียนได้มีการตรวจ ATK ให้กับนักเรียนทุกคน พร้อมทั้งให้กักตัวเป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะทำการตรวจซ้ำ ซึ่งผลของการตรวจ ATK หลังจากกักตัวครบ 7 วัน พบเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิด -19 กว่า 100 คน ทางโรงเรียนจึงได้แจ้งให้ทางทีมสาธารณสุข จ.ราชบุรี เข้ามาดำเนินการตามระบบ
ล่าสุดในวันนี้ ( 27 ม.ค.65 ) พบเด็กนักเรียนติดเชื้อทั้งหมด 311 ราย โดยได้ทำการส่งตัวเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลปากท่อ และโรงพยาบาลสนามอีกหลายแห่ง โดยแยกเด็กที่ป่วยออกมาจากกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการจัดการ และปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข ซึ่งเบื้องต้นนั้นยังไม่มีเด็กที่ติดเชื้อแล้วอาการรุนแรง ในส่วนของการสอบสวนโรคเพื่อหาที่มาว่าเด็กติดเชื้อมาจากไหนนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนโรค ในส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ใน พื้นที่ราชบุรี วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 187 ราย ติดอันดับ 9 ของประเทศ รักษาหายวันนี้ 95 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต
นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยว่า ตัวเลขของราชบุรีวันนี้มีผู้ติดเชื้อ 187 ราย ยังคงต้องเฝ้าระวังอยู่อย่างใกล้ชิด อีก 4 วันข้างหน้าถ้าตัวเลขยังคงหลักร้อยอยู่คงต้องกลับมาประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อทุกสัปดาห์ของวันพฤหัสบดี เมื่อสัปดาห์แล้ว ศบค.ได้ปรับพื้นที่สีโดยราชบุรียังจัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมสีส้มอยู่ ซึ่งมาตรการเข้มต่างๆยังคงเหมือนเดิม โดยเฉพาะการห้ามดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีพื้นที่ควบคุมปรับโทนสีเหลือ 44 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด