PRINC เปิดศูนย์มะเร็งแห่งแรกในศรีสะเกษ พร้อมดูแลผู้ป่วยทุกสิทธิ

#ทันหุ้น - บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC โชว์ศักยภาพ "ศูนย์มะเร็งแห่งแรกที่ศรีสะเกษ" ลงทุนเครื่องฉายรังสี 100 ล้านบาท พร้อมดูแลผู้ป่วยทุกสิทธิ ครอบคลุมรัฐบาล-เอกชน

ทั้งนี้ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ได้เปิดให้บริการ ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา แห่งแรกของจังหวัด เพื่อยกระดับการดูแลผู้ป่วยให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม โดยศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาแห่งนี้ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เครื่องฉายรังสีรุ่น Vital Beam ยี่ห้อ Varian มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับมาตรฐาน ซึ่งเป็นเครื่องมือชั้นนำด้านรังสีรักษา (Radiotherapy) ที่มีความแม่นยำระดับมิลลิเมตร

นพ.ธนา ปฏิมารัตนานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ กล่าวว่า เครื่องฉายรังสีนี้สามารถปล่อยรังสีได้อย่างแม่นยำสูงเฉพาะตำแหน่งก้อนมะเร็ง ปรับขนาดและทิศทางรังสีได้ตามลักษณะของผู้ป่วยแต่ละราย ช่วยลดการกระทบต่อเนื้อเยื่อปกติรอบข้าง ลดผลข้างเคียง และใช้เวลาในการรักษาแต่ละครั้งเพียงไม่กี่นาที ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมาก

โดยศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง สอดคล้องกับแนวคิด “Cancer Anywhere มะเร็งรักษาได้ทุกที่” ของกระทรวงสาธารณสุข โดยเปิดรับผู้ป่วยฉายแสงที่ใช้ สิทธิการรักษาของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรทอง (บัตร 30 บาท) สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ ทำให้ผู้ป่วยในภาคอีสานไม่ต้องเดินทางไกลไปรักษาในเมืองใหญ่ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที

นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังได้จับมือกับมูลนิธิพงษ์ศักดิ์ วิทยากร จัดโครงการฉายรังสีฟรี เพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ให้สามารถเข้าถึงการรักษาด้วยการฉายรังสีได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในจำนวน 15 สิทธิ์ และ ให้บริการคำปรึกษาการรักษาโรคมะเร็งโดยแพทย์ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งโครงการนี้เป็นไปตามปณิธานของโรงพยาบาลที่ต้องการสร้างคนที่มีจิตใจเป็นผู้ให้ เพื่อช่วยเหลือผู้คนและสังคม

ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา โรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคนี้ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างแท้จริง เพราะเราเชื่อว่า “มะเร็งรักษาได้ หากเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ” และทุกชีวิตมีคุณค่าเท่าเทียมกัน นพ.ธนากล่าว