รีเซต

STAแกร่งยางครบวงจร รุกAI-โซลาร์หนุนESG

STAแกร่งยางครบวงจร รุกAI-โซลาร์หนุนESG
ทันหุ้น
3 กันยายน 2568 ( 07:20 )
23

#STA #ทันหุ้น – STA ชูจุดแข็งผู้นำธุรกิจยางครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ–กลางน้ำ–ปลายน้ำ ครอบคลุม 41 โรงงานทั่วโลก มั่นใจบริหารต้นทุน-คุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI ยกระดับซัพพลายเชน-การผลิต ด้าน ESG เดินหน้าแผนโซลาร์เซลล์ 42 เมกะวัตต์ ใช้พลังงานชีวมวล พร้อมสะสมคาร์บอนเครดิตกว่า 150,000 ตัน ตั้งเป้าลดการปล่อย 10% ภายในปี 2569

นายวีรสิทธิ์  สินเจริญกุล  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทเดินหน้าวางกลยุทธ์เชิงรุก พร้อมบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ และเร่งพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว ตอกย้ำจุดแข็งการเป็นผู้นำธุรกิจยางพาราครบวงจรของโลก

สำหรับธุรกิจของกลุ่มบริษัทศรีตรังครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ โดยมี Plantation รวม 50,000 ไร่ โรงงานกลางน้ำผลิตยางแท่ง น้ำยางข้น และยางแผ่นรมควันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมยางล้อ และธุรกิจถุงมือยางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งส่งออกไปทั่วโลก ปัจจุบันกลุ่มบริษัทศรีตรัง มีโรงงานกว่า 41 โรงงาน ทั้งในและต่างประเทศทำให้สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าและบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลก

ขณะที่แนวโน้มราคายางในครึ่งปีหลัง 2568 คาดการณ์ว่ายังอยู่ในช่วงท้าทายเนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นเต็มที่ แต่บริษัทได้เตรียมแผนการผลิตและการขายที่เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพทางธุรกิจ และมุ่งเน้นการขายตามความต้องการจริงของตลาด พร้อมขยายฐานลูกค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มเพื่อเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นในอนาคต

*เร่งพัฒนาเทคโนโลยี

ทั้งนี้ STA ได้ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งซัพพลายเชนและการผลิต อาทิ แอปพลิเคชัน “Sri Trang Friends” หรือ “ศรีตรัง เพื่อนชาวสวน” สำหรับเกษตรกรตรวจสอบราคาและสถานะการซื้อขาย รวมถึงโครงการ “ยางมีพิกัด (GPS)” เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของยางได้ตามมาตรฐานสากล และ “Super Driver” ที่ช่วยรับยางจากสวนของเกษตรกรถึงหน้าโรงงาน 

นอกจากนี้บริษัทยังพัฒนา AI สำหรับตรวจสอบคุณภาพในสายการผลิตยางธรรมชาติและถุงมือยาง เพื่อให้การคัดแยกสินค้ามีความแม่นยำและรวดเร็ว ลดภาระแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การนำ AI มาใช้ STA มีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เป็นของตัวเอง เพื่อสร้างโซลูชันและให้คำปรึกษาแก่ทีมงานต่างๆ อาทิ การใช้ กล้อง AI ในการตรวจสอบสินค้าดีเฟค (Defect Detection) ในสายพานการผลิตยางแท่งและถุงมือ ซึ่ง AI จะเรียนรู้และคัดแยกยางหรือถุงมือที่มีตำหนิได้ทันที ทำให้เป็นเครื่องทุ่นแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมคุณภารควบคุมคุณภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น

*มุ่งคาร์บอนเครดิต

ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) กำหนดเป้าหมายชัดเจนในการลดการปล่อยคาร์บอนลง 10% ภายในปี 2569 และเดินหน้าสู่ Net Zero ในปี 2593 โดยมีแผนติดตั้งโซลาร์เซลล์กำลังการผลิตรวม 42 เมกะวัตต์ ใช้พลังงานชีวมวลเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และสะสมคาร์บอนเครดิตแล้วกว่า 150,000 ตัน รวมถึงเข้าร่วมโครงการ T-VER เพื่อยกระดับมาตรฐานการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

“ธุรกิจยางพารามีวัฏจักรขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทานของโลก แต่ด้วยโครงสร้างธุรกิจที่ครบวงจรและการบริหารจัดการต้นทุนที่แข็งแกร่ง STA เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว” นายวีรสิทธิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง