ปิโตรเคมีจบรอบขาลง แนะสะสมPTTGC-SCC

#หุ้นปิโตรเคมี #ทันหุ้น - หุ้นปิโตรเคมี ปรับตัวขึ้นเด่น รับผลดีซัพพลายจ่อลงต่อเนื่อง หลังญี่ปุ่นประกาศลดกำลังผลิต ด้าน “กสิกรไทย” ชี้ คาดใช้เวลาปิดโรงงาน 1-3 ปี หลังทยอยประกาศ Q2/2568 หนุนข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น จะใช้เวลา 3-4 ปี จึงแนะทยอยสะสม PTTGC-SCC ด้าน “หยวนต้า” มองปิโตรเคมีจบรอบขาลงเร็วขึ้นจากเดิมคาดปี 2567
หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีแห่ปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้ (2 ก.ย. 68) นำโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ปรับขึ้น 5.71% หรือ 1.50 บาท อยู่ที่ 27.75 บาท, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เพิ่มขึ้น 0.47% หรือ 1 บาท อยู่ที่ 216 บาท และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เพิ่มขึ้น 4.67% หรือ 0.05 บาท อยู่ที่ 1.12 บาท หลังญี่ปุ่นประกาศลดกำลังผลิต
นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ราคาหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้ เป็นผลต่อเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 กันยายน บริษัทที่ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศร่วมกันจัดตั้งบริษัทเพื่อศึกษาในการทำแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีแผนจะปิดโรงงานแครกเกอร์ 1 ใน 2 โรงที่มีอยู่ ซึ่งเปรียบเสมือนการลดกำลังการผลิตลง
@ต.ค.ชัดจีนปิดรง.
ส่วนแนวโน้มจะมีประเทศอื่นๆ จะมีการปรับลดกำลังการผลิตปิโตรเคมีเพิ่มหรือไม่ หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ประกาศออกมาแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าธุรกิจปิโตรเคมีเผชิญกับช่วงที่ส่วนต่างราคา (สเปรด) ต่ำต่อเนื่องมา 2-3 ปี ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงก็ทยอยปิดโรงงาน โดยกำลังผลิตที่ปิดไปแรกจะเป็นบริษัทปิโตรเคมีในยุโรป และต่อมาในเอเชีย คือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และมาที่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่มีการทยอยปิดไปก่อนหน้านี้
ด้านกำลังผลิตปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ ส่วนใหญ่อยู่ในจีน จากได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ถูกจากรัสเซียและอิหร่าน แต่ในที่สุดนโยบายของจีนจะบังคับให้โรงงานปิโตรเคมีเก่าๆ ปิดตัวลงเช่นกัน ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม
นายจักรพงศ์ กล่าวว่า เมื่อรวมกันแล้วโรงงานปิโตรเคมีที่ทยอยปิดลงทั้งในยุโรป เอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ใกล้ถึงจุดที่ทำให้สเปรดน่าจะดีขึ้น แต่บริษัทที่ประกาศว่าจะมีการปิดโรงงานปิโตรเคมีนั้น จะใช้เวลาในการปิดโรงงาน 1-3 ปี หลังจากที่มีการประกาศ ซึ่งธุรกิจปิโตรเคมีจะฟื้นเร็ว หรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะปิดโรงงานได้เร็วแค่ไหน
@จ่อเข้าสู่จักรขาขึ้น
ดังนั้นถ้าปิดโรงงานเสร็จทำให้ดีมานด์ซัพพลายปิโตรเคมีจะสมดุล ส่งผลสเปรดและอัตราการใช้กำลังการผลิต (Operating Rate) ก็จะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีกลับเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น ซึ่งจะใช้เวลา 3-4 ปี แล้วก็จะเข้าสู่วัฏจักรขาลงอีกครั้ง เพราะจะมีกำลังการผลิตใหม่ทยอยเข้ามาในปี 2573
“วัฏจักรขาลงของธุรกิจปิโตรเคมีใช้เวลา 7-9 ปี โดยเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงตั้งแต่ปี 2562 หากคำนวณตามวงจร 7 ปี จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2568 แต่รอบนี้ยาวนานกว่าปกติจะใช้เวลา 9 ปี จะเป็นปี 2570 จากนั้นก็จะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น ซึ่งใช้เวลา 3-4 ปี ก่อนจะเข้าสู่สู่วัฏจักรขาลงอีกครั้ง”
@PTTGC-SCC เด่น
ดังนั้นจึงแนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีจากที่กำลังจะเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น โดยหุ้นแนะนำคือ PTTGC และ SCC เป็นหุ้นเด่น เพราะมีการใช้วัตถุดิบแนฟทา และก๊าซธรรมชาติ ทำให้มีต้นทุนของผู้ผลิตที่อยู่ในควอร์ไทล์ที่ 3 (ผู้ผลิตที่มีต้นทุนวัตถุดิบหลากหลาย) และจะฟื้นตัวเร็วกว่าบริษัทที่ใช้แนฟทาเพียงอย่างเดียว (ควอร์ไทล์ 4) โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ของ PTTGC เพิ่มเป็น 30.20 บาทต่อหุ้น จาก 28.20 บาทต่อหุ้น แต่ปรับลดราคาเป้าหมายของ SCC ลงเล็กน้อยจาก 254 บาทต่อหุ้น เป็น 246 บาทต่อหุ้น
@วัฏจักรขาลงจบเร็วขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เริ่มเห็นสัญญาณปรับลดกำลังผลิตหลายแห่ง อาทิ การปิดตัว - ลดขนาดธุรกิจของโรงงานในญี่ปุ่น - ยุโรป เช่น Dow Eni ฯลฯ , นโยบาย Ant-Involution ของจีนช่วยลดการแข่งขันที่ไม่มีประสิทธิภาพ ภาครัฐเตรียมหยุดการดำเนินงานของโรงงานประสิทธิภาพต่ำ และอายุมากกว่า 20 ปี
(กำลังผลิต PE ของจีนราว 13% หรือประมาณ 5 ล้านตันเข้าข่ายเกณฑ์ดังกล่าว)
รวมถึงมาตรการลดอุปทานส่วนเกินของเกาหลีใต้ โดยผู้ผลิต 10 รายตกลงร่วมมือภาครัฐปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดกำลังผลิตจากโรงงาน Naphtha Cracking 2.7 - 3.7 ล้านตัน (ราว 25% ของกำลังผลิต PE ทั้งประเทศ 13 -15 ล้านตัน) คาดมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นหลังยื่นแผนปรับโครงสร้างภายในสิ้นปี 2568 แม้ฝ่ายวิจัยมองว่าปัจจัยข้างต้นยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุปทานล้นตลาดจำนวนมากให้คลี่คลาย และไม่สามารถกระตุ้น Margin ปิโตรเคมีให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้น แต่ในระยะกลางจะช่วยให้วัฏจักรขาลงสิ้นสุดเร็วขึ้น (เดิมคาดปี 2571)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
