รีเซต

โฮมโปรฯ กำไร 1.4 พันล้าน

โฮมโปรฯ กำไร 1.4 พันล้าน
TNN ช่อง16
27 ตุลาคม 2563 ( 08:01 )
294

นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ - กลุ่มบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด 30 กันยายน 2563 มีกำไรสุทธิ 1,400.51 ล้านบาท ลดลง 81.73 ล้านบาท หรือลดลง 5.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 1,482.25 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักดังนี้

1. รายได้รวม จำนวน 16,019.49 ล้านบาท ลดลง 355.98 ล้านบาท หรือ 2.17% ซึ่งประกอบไปด้วย

- รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 15,064.31 ล้านบาท ลดลง 268.83 ล้านบาท หรือ 1.75% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปรที่ลดลง โดยได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่น้อยลง สำหรับธุรกิจเมกา โฮม มียอดขายสาขาเดิมลดลงเล็กน้อย ส่วนธุรกิจโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียมียอดขายสาขาเดิมเติบโต อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) และรายได้จากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

- รายได้ค่าเช่า จำนวน 487.21 ล้านบาท ลดลง 65.76 ล้านบาท หรือ 11.89% เป็นผลมาจากการลดค่าเช่าในพื้นที่สาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจให้แก่ผู้เช่าบางราย

- รายได้อื่น จำนวน 467.97 ล้านบาท ลดลง 21.40 ล้านบาท หรือ 4.37% โดยเป็นผลมาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับ

2. กำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 3,885.13 ล้านบาท ลดลง 77.93 ล้านบาท หรือ 1.97% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำ ไรขั้นต้นต่อยอดขายลดลง เล็กน้อยจาก 25.85% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.79% โดยเกิดจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนยอดขายกลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจโฮมโปร เช่น สินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัว เป็นต้น แม้ว่าธุรกิจเมกา โฮมและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียจะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

3. ต้นทุนค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 135.80 ล้านบาท ลดลง 24.41 ล้านบาท หรือ 15.24% ปัจจัยหลักของการลดลงเป็นผลจากการลดลงของค่าสาธารณูปโภค ค่าเสื่อมราคา ค่าซ่อมแซม ค่าใช้จ่ายการจัดจ้างงานจากภายนอก (Outsource) ของธุรกิจบริหารพื้นที่ให้เช่า

4. ค่าใช้จ่ายในการขาย จัดจำหน่าย และบริหาร จำนวน 2,892.87 ล้านบาท ลดลง 22.43 ล้านบาท หรือ 0.77% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับเพิ่มขึ้นจาก 19.01% ในปี ก่อน มาอยู่ที่ 19.20% จากยอดขายที่ลดลง ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินจะลดลงก็ตาม โดยปัจจัยหลักมาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ค่าเช่าผันแปร ค่าสาธารณูปโภค ค่าซ่อมแซม และค่าใช้จ่ายการจัดจ้างงานจากภายนอก (Outsource) อย่างไรก็ตาม ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากการปรับปรุงรายการตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่า

5. ค่าใช้จ่ายทางการเงิน จำนวน 110.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิ10.26 ล้านบาท หรือ 10.28% จากผลกระทบของดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงรายการตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่16 เรื่องสัญญาเช่า ในขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้สินทางการเงิน (Interest Bearing Debt) ลดลงจากการชำระหนี้ของหุ้นกู้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2562และไตรมาสที่ 2 ปี 2563

6. ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ จ านวน 301.11 ล้านบาท ลดลง 46.77 ล้านบาท หรือ 13.44% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากก าไรก่อนหักภาษีที่ลดลง

ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไร  3,609.71 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 4,428.71 ล้านบาท หรือลดลง 18.49%

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง