รีเซต

TPOLY รอเซ็นรับงานใหม่ แบ็กล็อกปลายปี4พันล้าน

TPOLY รอเซ็นรับงานใหม่ แบ็กล็อกปลายปี4พันล้าน
ทันหุ้น
15 กันยายน 2563 ( 08:45 )
59
TPOLY รอเซ็นรับงานใหม่ แบ็กล็อกปลายปี4พันล้าน

ทันหุ้น –สู้โควิด –TPOLY เตรียมเซ็นสัญญารับงานโครงการใหม่ 1 โครงการ หนุนงานในมือสิ้นปีนี้แตะ 4 พันล้านบาท ตามเป้า เดินหน้าชิงงานใหม่ต่อเนื่องกว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมกางแผนเชิงรุกเตรียมขยายไลน์ธุรกิจสร้าง New S-curve ใหม่ คาดสรุปได้เร็วๆ นี้

 

นายปฐมพล สาวทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภายในช่วงที่เหลือของเดือนกันยนยา 2563 นี้ จะสามารถเซ็นสัญญาลงนามบันทึกข้อตกลงร่วม (MOU) รับงานโครงการใหม่ จำนวน 1 โครงการเข้ามาได้เพิ่ม โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบันบริษํทมีปริมาณงานในมือทั้งที่มีการเซ็นสัญญารับงานและอยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญาแล้วกว่า 1,860 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่าปริมาณงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า 4,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปี 2563 บริษัทยังมีความสนใจเข้าร่วมประมูลงานโครงการก่อสร้างจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะได้รับงานเพิ่มไม่น้อยกว่า 1 - 2 โครงการ มูลค่าเฉลี่ยประมาณ 1,000 - 2,000 ล้านบาทต่อโครงการ ซึ่งมองว่าจะเข้ามาช่วยเติมปริมาณงานในมือให้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้ารับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปี 2563 ไว้ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท

 

*เล็งแตกไลน์ธุรกิจใหม่

 

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในปี 2563 ในส่วนของธุรกิจก่อสร้าง คาดว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากการลงทุนในโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนยังคงชะลอตัว ซึ่งจะกระทบต่ออัตรากำไรของอุตสาหกรรมให้อยู่ในระดับต่ำ ในส่วนของบริษัทจะทยอยรับรู้จากโครงการเดิมและโครงการใหม่ ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีนโยบายในการเลือกรับงานโครงการที่มีศักยภาพในการทำกำไร โดยเฉพาะงานอาคารที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เช่น อาคารโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และโรงไฟฟ้า เป็นต้น

 

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาการขยายไลน์ธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้าง New S-curve ให้กับกลุ่มบริษัท สนับสนุนผลการดำเนินงานให้มีการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต เบื้องต้นคาดได้ข้อสรุปในระยะถัดไป

 

*ลุยโรงไฟฟ้า-อสังหา

 

ขณะที่เดียวกันธุรกิจโรงไฟฟ้าในปี 2563 คาดจะรับรู้รายได้มากขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามจำนวนโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 4 โครงการ ที่จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟ้าเข้าสู่ระบบ (COD) ขนาดกำลังการผลิตกว่า 48 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้า TPCH 1 ขนาด 10 MW, TPCH 2 ขนาด 10MW, โรงไฟฟ้าปัตตานี ขนาด 23 MW และ TPCH 5 ขนาด 5 MW เป็นต้น ภายในช่วงเดือนกันยายน 2563 นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้รายได้จากโรงไฟฟ้ามีสัดส่วนต่อรายได้รวมที่สูงขึ้นและส่งผลต่อศักยภาพในการทำกำไรเพิ่มขึ้น

 

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการโครงการที่ 3 ซึ่งเป็นโครงการใหม่ในย่านถนนลำลูกกาคลอง 7 บนเนื้อที่ประมาณ 34 ไร่ เริ่มดำเนินการปรับพื้นที่ และการออกแบบใกล้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะมีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2563 และล่าสุดบริษัทได้ซื้อที่ดินบริเวณลำลูกกาคลอง 5 เนื้อที่ประมาณ 57-3-23 ไร่ ส่วนการพัฒนาโครงการในอนาคต สำหรับธุรกิจการค้าอยู่ในช่วงขยายกิจการ โดยนอกจากจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างให้กับบริษัทแม่และบริษัทในเครือ บริษัทยังมีเป้าหมายในการเป็นตัวแทนจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกลุ่มบริษัทโรงไฟฟ้าในเครือโดยเน้นโรงไฟฟ้าที่อยู่ในโซนภาคใต้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง