เกษตรฯ เล็งแกะทุเรียนเป็นพู ขนขึ้นเครื่องส่งออก เสิร์ฟต่างชาติ
สศก. เผยเล็งส่งออกทุเรียน หมอนทอง ชะนี เกรดพรีเมียม แกะเป็นพูแพ็กใส่กล่อง ขายให้กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนที่มีเงิน ในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2565 นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า คาดว่าราคาทุเรียนปี 2565 อาจปรับตัวลดลง จากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นและออกมากระจุกตัวในช่วงเดียวกัน โดยหน่วยงานด้านการตลาดอยู่ระหว่างการเจรจาเปิดตลาดขายผลไม้ ไปยังตลาดใหม่ อาทิ ตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง
เพิ่มเติมจากตลาดที่ส่งออกหลักอย่างจีน เพื่อระบายผลผลิตปี 2565 คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 22% จากปี 2564 ที่มีผลผลิตประมาณ 1.1-1.2 ล้านตัน
ทั้งนี้ผลผลิตทุเรียนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อราคาตลาดในประเทศ ที่ปรับตัวลดลง แต่เพื่อไม่ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบมากหากราคาลดลง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มยอดส่งออกให้มากขึ้น จากปกติปี 2564 ไทยส่งออกทุเรียนประมาณ 9 แสนตัน และบริโภคในประเทศประมาณ 2 แสนตัน เมื่อปีนี้ผลผลิตเพิ่มขึ้นก็ต้องหาตลาดส่งออกเพิ่ม และรณรงค์ให้คนไทยบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น
ขณะนี้กำลังเจรจาปลดล็อกด่านส่งออกจีนที่กำลังมีปัญหา จากนโยบาย Zero Covid ของจีน มีกระบวนการตรวจสอบการติดเชื้อในบรรจุภัณฑ์และสินค้า ทำให้เกิดความล่าช้ามีสินค้าตกค้างหน้าด่านจำนวนมาก ผู้ส่งออกจึงพิจารณาไปจีนผ่านช่องทางด่านของเวียดนาม โดยขนส่งทางน้ำ เพื่อให้มีความรวดเร็วในการขนส่ง
นอกจากนี้ก็มีการประสานเว็บขายของออนไลน์ อาทิ อาลีบาบา และ ลาซาด้า เพื่อรับพรีออเดอร์ทุเรียนก่อน แล้วนำส่งที่หลัง ให้เกิดความรวดเร็วและนำส่งได้ตรงเวลา
“นอกจากทางการไทยจะเร่งเจรจาเพิ่มความสะดวกในการเปิดด่านส่งออกผลไม้ เพื่อไม่ให้ค้างอยู่หน้าด่านและเน่าเสีย เสียหายต่ออุตสาหกรรมของส่งสินค้าเกษตรไทย และขณะนี้กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนที่มีเงิน ในประเทศจีนกำลังนิยมบริโภคทุเรียนที่กลิ่นไม่แรงเกรดพรีเมียมอย่างหมอนทอง หรือ ชะนี สามารถแกะเป็นพูแล้วแพ็กใส่กล่อง ขึ้นเครื่องบินส่งออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับสายการบิน อาทิ การบินไทย”
นายฉันทานนท์ กล่าวต่อว่า จากกระแสความนิยมในการบริโภคทุเรียนในต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน มีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เกษตรกรไทยเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกและ ในปี 2565 มีผลผลิตทุเรียนเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า ส่วนผลไม้อื่นๆล้วนแต่ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกชนิด ทั้ง ลำไย มังคุด เงาะ และลิ้นจี่ เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อรองรับผลผลิตที่จะออกมาในปี 2565 ทุเรียน เงาะ มังคุด จะมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดสูงสุดพร้อมกันในเดือนพฤษภาคม รวมกันไม่น้อยกว่า 5 แสนตัน ลำไยจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดสูงสุดเดือนสิงหาคม รวมกันไม่น้อยกว่า 3.5 แสนตัน