สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ปี 2564 อัปเดต 7 แบงก์ ที่ไหนให้ดอกเบี้ยต่ำสุด?
สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เชื่อว่าหลายคนน่าจะกำลังมองหา เพื่อที่จะวางแผนค่าใช้จ่ายช่วงสิ้นปี ทั้งการจ่ายภาษีรายได้ ภาษีที่ดิน ต่างๆเป็นต้น โดยบางคนอาจจะมีภาระค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 อย่าง เช่นบางคนอาจจะมีภาระทั้งค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว หรือค่าเทอมของลูกๆที่เตรียมจะมาในไม่ช้า ช่วงที่ผ่านมาด้วยผลกระทบจากโควิด-19 หลายระลอก อาจจะทำให้สภาพคล่องฝืดเคือง การสมัคร สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดภาระในช่วงปลายปีได้บ้าง
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร
ข้อมูลจากรีฟิน refinn.com ระบุว่าปัจจุบันคนไทยกว่า 80% มีหนี้ และหนี้ที่ใหญ่ที่สุดของคนก็คือบ้าน ดังนั้นบรรดาแบงก์ต่างๆจึงได้มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านขึ้นมา เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบเรื่องสภาพคล่องให้กับลูกค้า ซึ่งการขอ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่เรากู้อยู่กับธนาคารเดิม ไปธนาคารใหม่ โดยจะต้องผ่อนมามากกว่า 3 ปี โดย ธนาคารใหม่จะให้ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม ทำให้ผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง และผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น รวมถึงเรายังสามารถนำบ้านหรือคอนโด ที่กำลังผ่อนกับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือติดขายฝาก มาทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อผ่อนกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบ้านถูกกว่าได้เช่นกัน
ข้อดีก็คือลดดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง สามารถช่วยให้เราหักเงินต้นได้มากขึ้น เมื่อภาระดอกเบี้ยน้อยลง ค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนก็จะถูกนำไปหักเงินต้นคงเหลือได้มากขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนต่อไปก็จะลดลงอีก รวมทั้งค่าผ่อนบ้านต่อเดือนก็จะ่น้อยลงด้วย
สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เหมาะกับใคร
1. เหมาะกับคนที่ต้องการลดดอกเบี้ยบ้าน หรือ ผ่อนบ้านต่อเดือนถูกลง
2. คนที่ต้องการลดระยะเวลาการผ่อนบ้าน ผ่อนบ้านหมดไว้ขึ้น
3. สำหรับคนที่ต้องการวงเงินกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน หรือปิดหนี้ สินเชื่อ บัตรเครดิตให้หมดไป
โดยส่วนใหญ่จะมีการรีไฟแนนซ์ หรือขอลดดอกเบี้ยบ้าน ก็ต่อเมื่อผ่อนบ้านไปแล้ว 3 ปีขึ้นไปหรือตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญากู้บ้าน ดังนั้น TNN Online จึงรวบรวม สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจมาฝากกัน
อันดับ | ธนาคาร | วงเงินสินเชื่อ///เงื่อนไข | อัตราดอกเบี้ย (เฉลี่ย 3 ปีแรก) |
1. | ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) | วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมิน //ผู้กู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป | 2.60% |
2. | ธนาคารทหารไทยธนชาต | เท่ากับยอดหนี้เดิม หรือ 90-95% ของราคาประเมิน // มีเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต | 2.64% |
3. | ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | สูงสุด 95% ของราคาประเมิน //หลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป | 2.75% |
4. | ธนาคารกรุงเทพ | กู้สูงสุด 100% //ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปของภาระหนี้คงเหลือ กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร และทำประกัน | 2.78% |
5. | ธนาคารอาคารสงเคราะห์ | เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด // สำหรับวงเงินให้กู้รวมทุกบัญชีภายใต้หลักประกันเดียวกันตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป | 2.83% |
6. | ธนาคารกรุงไทย | เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด //กรณีที่ทำประกัน | 3.00% |
7. | ธนาคารไทยพาณิชย์ | ไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม | 4.90% |
ที่มา : ธปท.
*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์เฉลี่ย 3 ปี คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***
สำหรับ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน จาก 7 ธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยใน 3 ปีแรก ต่ำสุดในตลาดมีดังนี้
1. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านที่หลากหลาย และมีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.60% โดยใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ 2 ปีแรกที่ MRR-5.35% และปีที่ 3 MRR-3.55% และอีกหนึ่งทางเลือกที่มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.60% เช่นกัน โดยใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวคงที่ 3 ปีที่ MRR-4.75%
โดยการขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารนั้น ให้วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมิน ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ในการกู้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุดที่ 2.60% นี้ จะต้องอยู่ในเงื่อนไขของผู้กู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.lhbank.co.th/Home/Index
2. ธนาคารทหารไทยธนชาต
สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ของธนาคารทหารไทยชาต แบ่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มได้แก่ ลูกค้าทั่วไป และลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB (Payroll) โดยในกลุ่มลูกค้าทั่วไปจะมีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.69% ในกรณีของการสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท
ส่วน ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารทหารไทยชาต TTB (Payroll) จะมีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.64% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกที่ต่ำที่สุดของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของธนาคาร มีวงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท
หากเป็นการรีไฟแนนซ์บ้านพร้อมที่ดิน หรือ ห้องชุดคอนโดมิเนียม ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท วงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม หรือสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาประเมินธนาคารฯ แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า ส่วนราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปวงเงินเท่ากับยอดหนี้เดิม หรือสูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินธนาคารฯ แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า รวมไปถึงให้ระยะเวลากู้นานสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.ttbbank.com
3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 2.75% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ในปีแรกเท่ากับ 1.75% และปีที่ 2 เท่ากับ 2.20% และใช้อัตราดอกเบี้ยลอยตัวในปีที่ 3 เท่ากับ MRR-1.75%
สำหรับเงื่อนไขมีอยู่ว่า หลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และให้วงเงินกู้สูงสุดที่ 95% ของราคาประเมิน สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี และระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.krungsri.com/th/personal
4. ธนาคารกรุงเทพ
สำหรับ ธนาคารกรุงเทพ ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.78% แบ่งเป็น ปีแรก=MRR-4.00% ปีที่ 2=MRR-3.75% และปีที่ 3=MRR-1.75%
ส่วนกรณีที่หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร โดยให้วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ แต่มีเงื่อนไขให้อนุมัติวงเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และอยู่ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองสินเชื่อ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.bangkokbank.com/
ภาพประกอบจาก :พีอาร์คุณาลัย
5. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
อัตราดอกเบี้ย สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สินเชื่อบ้านสุขสันต์ (Re-in) มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.83% โดยมีเงื่อนไขเฉพาะสำหรับ กลุ่มลูกค้าสวัสดิการ และให้วงเงินกู้สูงสุดตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
ขณะที่ลูกค้าทั่วไป จะมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.93% และให้วงเงินสูงสุดตามเกณฑ์หลักประกัน และตามเกณฑ์รายได้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.ghbank.co.th/
6. ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย มีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่อัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 3.00% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นกู้ โดยมีให้เลือก 2 รูปแบบคือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแบบทำประกัน กับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านแบบไม่ทำประกัน ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบมีอัตราดอกเบี้ยต่างกัน
โดยธนาคารกรุงไทย มีสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ในกรณีของการทำประกันคุ้มครองเงินกู้เป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ต่ำที่สุดของผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.00% โดยใช้อัตราดอกเบี้ย MRR – 3.22% ตลอด 3 ปี
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://krungthai.com/
7. ธนาคารไทยพาณิชย์
สินเชื่อทั่วไปที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น มาขอขอลดดอกเบี้ยบ้านกับธนาคารไทยพาณิชย์ มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 4.90% โดยมีเงื่อนไขในการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมากกว่า 70% และในกรณีที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น วงเงินที่ให้กู้สูงสุดต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิมของวงเงินกู้ ส่วนลูกค้าทั่วไป ลูกค้าโครงการ / ลูกค้าองค์กร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการ หรือ ประเภทองค์กร และเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของธนาคาร คลิกที่ลิงก์ https://www.scb.co.th/
ภาพประกอบ: AFP
เทคนิคการขอ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ให้ได้อนุมัติเร็ว
- ตั้งวงเงินที่ต้องการ โดยให้ตั้งวงเงินที่ตนเองต้องการว่าเท่าไหร่จึงจะช่วยภาระเราได้ แล้วลองตีมูลค่าบ้านคร่าว ๆ ที่คาดว่าจะได้ จะทำให้รู้ว่าโอกาสจะได้เงินตามนั้นมีมากน้อยแค่ไหน แต่ต้องคำนึงด้วยว่า สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน ก็คือหนี้สินอีกก้อนที่ดอกเบี้ยถูกลงเท่านั้น ไม่ควรตั้งเยอะเกินความจำเป็น
- ศึกษารายละเอียด โปรโมชั่น - ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน หรือรายละเอียดของ สินเชื่อแต่ละธนาคารให้ละเอียดที่สุด
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, เอกสารรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน, สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารอย่างน้อย 6 เดือน เป็นต้น
- ศึกษาเงื่อนไขของแบงก์เดิมว่ามีค่าใช้จ่ายที่ต้องเสีย จากการรีไฟแนนซ์อะไรบ้าง เช่น ค่าเบี้ยปรับจากสถาบันการเงินเดิม, ค่าธรรมเนียมดำเนินการ, ค่าอากรแสตมป์, ค่าทำประกันอัคคีภัย, ค่าธรรมเนียมจดจอง, ค่าไถ่ถอน, ค่าจดจำนอง เป็นต้น
- เตรียมค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้ไม่ฉุกละหุกเมื่อต้องจ่าย
- ยื่นกู้หลายๆธนาคาร จะได้เปรียบเทียบดอกเบี้ยรวมทั้งเงื่อนไขที่ตอบโจทย์ที่สุด
การขอ สินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน สามารถช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้ผู้ขอสินเชื่อได้มากก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการรีไฟแนนซ์จะสามารถลดดอกเบี้ยได้เสมอไป ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือการศึกษารายละเอียด ข้อมูลของสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ ซึ่งเงื่อนไขจะแตกต่างกันตามแต่ละธนาคาร โดยสิ่งที่ให้พิจารณาอันดับแรกคืออัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อของสินเชื่อรีไฟแนนซ์นั้น จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อปัจจุบัน หากสินเชื่อที่เรายื่นไม่ได้ลดภาระค่าใช้จ่ายลงมากเท่าไหร่ ก็ให้ลองยื่นธนาคารอีกหลายๆที่เพื่อดูอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งเงื่อนไข ว่าตอบโจทย์สำคัญนั่นคือ "ลดภาระ" ได้มากแค่ไหน
ข้อมูล : ธปท. , refinn.com
ภาพ: AFP ,พีอาร์ คุณาลัย ,TNN Online