รีเซต

"สร้างอนาคตไทย" ลั่นชัด ไม่เสนอชื่อ "ประยุทธ์"เป็นนายกฯ อุบชื่อ "สมคิด"เป็นแคนดิเดต

"สร้างอนาคตไทย" ลั่นชัด ไม่เสนอชื่อ "ประยุทธ์"เป็นนายกฯ อุบชื่อ "สมคิด"เป็นแคนดิเดต
มติชน
19 มกราคม 2565 ( 16:53 )
70
"สร้างอนาคตไทย" ลั่นชัด ไม่เสนอชื่อ "ประยุทธ์"เป็นนายกฯ อุบชื่อ "สมคิด"เป็นแคนดิเดต

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 มกราคม ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามกรณีการเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทยครั้งนี้มีความแตกต่างจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อย่างไรและจะมั่นใจว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราอาสาทำงานให้บ้านเมือง คิดว่าเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วน โดยเหตุการณ์วันนี้ แตกต่างจากวันนั้นพอสมควร วันนั้นเราไปทำงานด้วยความมุ่งมั่น เหตุการณ์เปลี่ยนไป เรายุติบทบาท และได้แต่ติดตาม วันนี้เราเห็นว่าประเทศต้องการรวมพลังคนทำงาน นั่นคือ ที่มาของพรรค ประชาชนให้ความไว้วางใจ เราพร้อมที่จะทำงาน

 

เมื่อถามว่า การระบุว่า จุดยืนของพรรคไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่งแล้วจุดยืนของพรรคอยู่ตรงไหนของการเมือง นายอุตตม กล่าวว่า จุดยืนของพรรคคือการเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ ฟื้นเศรษฐกิจ วางรากฐานเพื่ออนาคตของคนไทย เพื่อความมั่นคง ยั่งยืน ซึ่งการที่เราบอกว่าไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เพื่อที่จะสามารถขับเคลื่อนสิ่งที่อาสามาทำในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ เราไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใด ซึ่งต้องยอมรับว่าเราเห็นความแย้ง ในมิติการเมือง ที่อาจจะพูดได้ว่าทำหน้าที่ให้ประชาชน ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งเรื่องผู้ชุมนุมประท้วง เรื่องแบบนี้เราไม่ต้องการ

 

เมื่อถามว่า ทิศทางของพรรคจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตนและนายสนธิรัตน์ เคยทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์ และท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาลของเราในครั้งนั้น แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองจึงทำให้เราต้องออกมา และวันนี้เราทำพรรคสร้างอนาคตไทย ทำให้ประชาชนไม่ได้ทำให้บุคคลใด บุคคลหนึ่งทั้งนั้นเป็นการรวมตัวของคนที่อาสาทำงานให้ประเทศชาติ และ”พวกผมเดินออกมาแล้ว จะไม่หันหลังกลับ”

 

 

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้เรายังไม่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่าเป็นใคร เพราะต้องผ่านกระบวนการสรรหาของพรรค ซึ่งมีกฎเกณฑ์พิจารณาว่าใครที่มีความเหมาะสม และสมานความร้าวฉานที่มีในขณะนี้ได้และมีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ และแก้เศรษฐกิจได้ และเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ นี่คือหลักการของเรา

 

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ถามว่าเราอยู่ตรงไหน วันนี้ความขัดแย้งร้าวลึก ความคิดทางการเมืองเป็น 2 ปีก สิ่งหนึ่งที่พรรคจะไม่ทำคือ ไม่ซ้ำเติมความแตกแยกของสังคมไทย ดุลยภาพทางการเมืองไทยวันนี้ มิติแรกมี 2 ขั้วชัดเจน มีความเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ใช่อุปสรรค แต่ที่สำคัญ คือ ต้องไม่นำไปสู่ความแตกแยกที่รุนแรง ร้าวลึกหรือเป็นการต่อสู้ในเชิงกลุ่มคน และวัยของผู้คน เรามีเจตนารมณ์สร้างพรรคที่จะพยายามเป็นพรรคที่ไม่สร้างความแตกแยก เรื่องอนาคตของพรรค เคยร่วมทำพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งเหมือนวันนี้ เรามีโครงการอยู่ในใจเสมอ หลายท่านร่วมสร้างพรรคกับพวกเรามา เราประกาศตัวเสมอว่า ไม่ใช่นักการเมือง ที่ตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประโยชน์พวกพ้อง ท่านสามารถตรวจสอบและมองคนบนเวทีเหล่านี้ได้ว่า เขาไม่ได้เอาพวกพ้องเป็นตัวตั้ง การทำงานทั้งหมดของเรา คือการนำพาประเทศไปข้างหน้า

 

“ท่านพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บังคับบัญชาเรา และ นายกรัฐมนตรีได้พูดผ่านโฆษกประจำสำนักนายกฯเมื่อวานนี้ ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับพรรคสร้างอนาคตไทย และเป็นเรื่องจริง ที่ท่านไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างพรรคในครั้งนี้ และชัดเจนว่า เราไม่ได้ทำพรรคเพื่อสืบทอดอำนาจให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราทำพรรคเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนในการแก้ปัญหา เราไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายชื่อของพรรค เพราะเราต้องเสนอแคนดิเดตนายกฯในพรรคของเรา ซึ่งพรรคมีจุดยืนสรรหานายกฯ ที่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้ ที่จะสามารถเป็นที่ยอมรับจากประชาชน และนานาประเทศ ”

 

เมื่อถามว่ายืนยัน ว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคอะไหล่ หรือ พรรคนอมินี ของพรรคแกนนำรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตม กล่าวว่า “ขอพูดชัดสั้นๆว่าไม่ใช่ ไม่เกี่ยวข้องกัน”

 

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า “เรายืนยันว่าไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ไม่ได้ตั้งมาเพื่อรองรับกับผู้ใดผู้หนึ่ง และ เราไมได้ตั้งพรรคเป็นอะไหล่ให้ของใคร แต่ในทางตรงข้ามเราตั้งพรรค และเลือกที่จะทำงานกับใคร ซึ่งพรรคที่เราจะทำงานด้วยต้องมีอุดมการณ์สอดรับกับพรรคของเรา”

 

 

เมื่อถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ เป็นชื่ออยู่ในใจจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เป็นทราบกันดีว่านายสมคิด สนิทกับพวกเรา ตอบตรงๆ อย่างน้อยในส่วนของตนท่านไม่ทอดทิ้งพวกเรา ถามตนว่าท่านเหมาะสมหรือไม่ คิดและเชื่อว่าท่านเหมาะสม แต่พวกเรามารวมพลังกัน ก็จะช่วยกันพิจารณาว่าใครบ้าง และจะเสนอทั้ง 3 ตำแหน่ง ซึ่งเราต้องดูใครเป็นหัวหน้าพรรคและใครที่เหมาะสม

 

เมื่อถามย้ำว่า นายสมคิดจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ3คนของพรรค หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หัวหน้าพรรคจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนอีก 2 คน ก็อยู่ทีพรรคจะพิจารณาต่อไป ขณะที่หัวหน้าพรรคจะเป็นใครจะต้องมีการคัดเลือกในพรรคพิจารณาอีกครั้ง

 

เมื่อถามว่าในเมื่อพรรคจะฟื้นเศรษฐกิจทำไมไม่ชูนายสมคิดเป็นหัวหน้าพรรคตามที่หลายฝ่ายเรียร้อง นายอุตตม กล่าวว่า ถ้าถามในใจตน ตนว่านายสมคิดเหมาะสม และที่ผ่านมานายสมคิดไม่เคยทอดทิ้งพวกเรา

 

เมื่อถามว่า สร้างอนาคตไทย แตกต่างอย่างไรกับพรรคที่เกิดใหม่ นายอุตตม กล่าวว่า เรามีเป้าหมาย และจุดยืนชัดเจนคือเข้ามาฟื้นเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในวันนี้ เราแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะเน้น ระดมผู้คนจากหลากหลายภาคส่วน ที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้จะปรากฏออกมาให้ประชาชนได้เห็นว่า พรรคสร้างอนาคตไทย สามารถรวบรวมผู้คน นำเสนอชุดความคิดใหม่

 

นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า พรรคเรามีความแตกต่างแน่นอน เพราะพรรคนี้จะฟื้นเศรษฐกิจ เป็นพรรคที่มีความมุ่งมั่นในการฟื้นเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ มีคนทำงาน มีผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจว่า จุดแตกต่างคือ พรรคเรามุ่งหน้าฟื้นเศรษฐกิจคือภารกิจหลัก

 

เมื่อถามถึงพรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าจะได้จำนวนส.ส.เท่าไหร่ นายสนธิรัตน์ ปฏิเสธที่ตอบคำถามโดยระบว่า อยู่ที่ประชาชน วันนี้ตนขอทำงานก่อน และความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพราะวันนี้พึ่งเริ่มต้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง