"ทรัมป์" เคาะ ภาษีทองแดงร้อยละ 50 มีผล 1 ส.ค.นี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social เมื่อวันพุธที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตราสูงถึง 50% ซึ่งเขาได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับผลการประเมินด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของทองแดงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ ทองแดงเป็นโลหะที่จำเป็นสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องบิน เรือ อาวุธ ศูนย์ข้อมูล แบตเตอรีลิเธียมไอออน ระบบเรดาร์ ระบบป้องกันขีปนาวุธ และแม้แต่ อาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งเรากำลังสร้างขึ้นเป็นจำนวนมาก ทองแดงเป็นวัสดุที่กระทรวงกลาโหมใช้มากเป็นอันดับสอง"
คำประกาศดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่าทองแดงเป็นสินทรัพย์สำคัญที่ต้องปกป้องเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมและการป้องกันประเทศ
ทันทีที่มีการประกาศดังกล่าวออกมา ราคาทองแดงฟิวเจอร์ในตลาดสหรัฐฯ ก็ตอบรับในเชิงบวกอย่างรวดเร็ว โดยพุ่งขึ้น 2.6% ในวันพุธ
ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันอังคารที่ราคาทะยานขึ้นถึง 13.12% ทำสถิติพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความกังวลของตลาดต่ออุปทานและแนวโน้มราคาที่อาจสูงขึ้นจากการปรับขึ้นภาษีครั้งนี้
ข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า ทองแดงเป็นโลหะที่มีการใช้มากเป็นอันดับสามของโลก รองจากเหล็กและอะลูมิเนียม
ซึ่งบ่งชี้ถึงบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม และด้วยความที่สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าทองแดงเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ทั้งหมด
การตัดสินใจขึ้นภาษีในครั้งนี้จึงนับเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญที่อาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและราคาโลหะพื้นฐานในอนาคต
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
