รีเซต

'เฉลิมชัย'ติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบที่กระบี่ พร้อมรับมืออุทกภัย

'เฉลิมชัย'ติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบที่กระบี่ พร้อมรับมืออุทกภัย
มติชน
4 กรกฎาคม 2563 ( 17:18 )
169
'เฉลิมชัย'ติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบที่กระบี่ พร้อมรับมืออุทกภัย

 

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายวีระ เพ็งทอง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกระบี่ และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ณ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

 

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย  1.) ฝายคลองปกาไสย 2.) ฝายคลองน้ำแดง 3.) ฝายคลองทรายขาว 4.) อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด 5.) อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเขียว 6.) อ่างเก็บน้ำคลองหยา 7.) อ่างเก็บน้ำห้วยลึก และ 8.) อ่างเก็บน้ำคลองแห้ง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันประมาณ 19 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างรวมกัน สามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 118 ล้าน ลบ.ม.

 

 

กรมชลประทาน มีแผนพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทานปีงบประมาณ 2563 ได้แก่ โครงการก่อสร้างฝายบ้านสะท้อนกลวง ตำบลสินปุน อำเภอเขาพนม มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 40 ครัวเรือน โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำฝายคลองยา ตำบลคีรีวง อำเภอปลายพระยา มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 1,500 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 80 ครัวเรือน โครงการปรับปรุงระบบท่องส่งน้ำอ่างเก็บน้ำบางกำปรัดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 ความยาว 5.840 กิโลเมตร โครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำพร้อมอาคารประกอบ ของโครงการระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง สามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานกว่า 3,400 ไร่ และโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำ ของโครงการอ่างเก็บน้ำทรายขาว ความยาว 3.677 กิโลเมตร

 

ทั้งนี้ โครงการชลประทานกระบี่ ได้กำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำและการเตรียมพร้อมรับน้ำหลาก โดย ทำการวางแผนการบริหารจัดการแหล่งน้ำชลประทานในพื้นที่จังหวัดกระบี่อย่างเป็นระบบเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ซึ่งจะทำการพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน พร้อมทั้งตรวจสอบอาคารชลประทานทั้ง 12 แห่ง ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตามปกติ นอกจากนี้ยังจัดตั้งศูนย์ติดตามวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำจากศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) อย่างใกล้ชิด พร้อมกับจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิเครื่องสูบน้ำ จำนวน 20 เครื่อง รถบรรทุก 5.5 ตัน จำนวน 1 คัน  รถบรรทุก 2 ตัน จำนวน 1 คัน และ รถไถ จำนวน 1 คัน ให้พร้อมสำหรับเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันทีหากเกิดภัยพิบัติ เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ได้

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง