"เฉลิมชัย"สั่งประมงยื่นทะเบียนฯ เปิดช่องส่งออกสัตว์น้ำไปจีน หวังพลิกฟื้นราคาหลังโควิด
“เฉลิมชัย” สั่งประมงยื่นทะเบียนฯ เปิดช่องส่งออกสัตว์น้ำไปจีน หวังพลิกฟื้นราคาหลังโควิด
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “ชาตินิยม กะพงไทย” ครั้งที่ 2 ว่า ในส่วนของเรื่องราคาพืชสัตว์น้ำที่มีเกณฑ์ลดลงนั้น ปัจจุบันทางกรมประมงและกระทรวงเกษตรฯ มีการส่งเสริมนโยบายบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตของที่มีคุณภาพออกมาตามเทรนด์สุขภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งเนื้อปลากระพง เมื่อเทียบกับปลาแซลมอนแล้วคุณค่าทางอาหารไม่ได้ต่างกันเลย แต่ราคาปลากระพงกับถูกกว่ามาก
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า จากปัญหาเรื่องราคาสัตว์น้ำไทยที่มีราคาถูก ตนจึงได้สั่งการให้กรมประมงยื่นคำขอขึ้นทะเบียนการส่งออกสัตว์น้ำไปยังประเทศจีน ซึ่งจะเป็นการขยายตลาดต่างประเทศได้ มองว่าเป็นสิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปจึงจะได้ผล ส่วนการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้านนั้น ทางกระทรวงเกษตรฯ มีความเข้มงวดเป็นไปตามกรอบสัญญาที่ทำขึ้น นอกเหนือจากนั้นห้ามไม่ให้มีการนำเข้า ถ้านำเข้าก็ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดไว้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนผู้นำเข้าจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ราคาปลากระพง ได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากผลผลิตล้นตลาด และการบริโภคในประเทศน้อยลง ส่งผลให้ราคาลดลงกว่า 50% นั้น ขณะนี้ ราคาฟื้นกลับคืนมาแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ได้สั่งการให้กรมประมงเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งในเรื่องของการขยายตลาด การควบคุมแปลงเพาะเลี้ยงปลากระพงให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เชื่อว่าถ้าทำได้ตามที่วางแผนไว้ปัญหาเรื่องราคาก็จะน้อยลงแน่นอน
“หลังจากสิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าสินค้าทุกประเภทจะถูกนำมาขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงนี้ถือเป็นทางเลือกของผู้บริโภคและเป็นช่อทางการหารายได้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกรอีกด้วย โดยที่ผ่านมาผมได้ไปลงนามในสัญญา (เอ็มโอยู) ร่วมกับช่อง 5 และไปรษณีย์ไทย ในการจัดหารถห้องเย็นเพื่อขนถ่ายสินค้าให้เกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อไปทำเอ็มโอยูร่วมกับทั้ง 2 องค์กรเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์และจัดส่งสินค้าให้กับเกษตรกรต่อไป” นายเฉลิมชัยกล่าว