รีเซต

20 ต.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกใช้เอสทีวีถึงสุวรรณภูมิ 41 คน ยันกักตัว 14 วันแล้วเที่ยวไทยต่อ

20 ต.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกใช้เอสทีวีถึงสุวรรณภูมิ 41 คน ยันกักตัว 14 วันแล้วเที่ยวไทยต่อ
ข่าวสด
19 ตุลาคม 2563 ( 20:04 )
137
20 ต.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกใช้เอสทีวีถึงสุวรรณภูมิ 41 คน ยันกักตัว 14 วันแล้วเที่ยวไทยต่อ

20 ต.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกใช้เอสทีวีถึงสุวรรณภูมิ 41 คน ยืนยันกักตัว 14 วันแล้วเที่ยวไทยต่อ - ส่วนการเมืองยังไม่กระทบให้พรก.ฉุกเฉินกระทบความคุ้มครองประกันนักท่องเที่ยว

20 ต.ค.เอสทีวีถึงสุวรรณภูมิ - นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัด ภายใต้วีซ่าพิเศษหรือสเปเชียลทัวร์ริสวีซ่า (เอสทีวี) ว่า ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะมีต่างชาติเข้ามากลุ่มแรกจากเซี่ยงไฮ้ จำนวนประมาณ 41 ราย บินมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งจะไม่มีพิธีการต้อนรับใดๆ ทั้งสิ้น โดยเน้นย้ำว่า ต่างชาติที่จะเข้ามา ต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ตั้งแต่การลงสนามบิน การตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการกักตัว 14 วัน ในโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานกักตัวของรัฐทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (เอเอสคิวหรือเอแอลเอสคิว) หลังจากนั้นกลุ่มที่ 2 จะเข้ามาในวันที่ 26 ต.ค.นี้ จากกว่างโจว ประมาณ 100 ราย บินมาลงที่สุวรรณภูมิเช่นกัน

“เที่ยวบินอื่นๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มเติม ยังอยู่ในขั้นตอนการสื่อสาร ว่าจะเข้ามาลงที่สนามบินใด อาทิ สุวรรณภูมิ หรือในพื้นที่ที่มีเอเอสคิวและเอแอลเอสคิว อาทิ บุรีรัมย์ ชลบุรี ปราจีนบุรี ภูเก็ต และสมุย ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ โดยยืนยันว่า การเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเข้ามาแล้วอยู่ระหว่างการกักตัว 14 วัน จะต้องอยู่ในเอเอสคิวหรือเอแอลเอสคิวเท่านั้น หลังจากกักตัวครบตามกำหนดแล้ว ส่วนใหญ่แสดงความต้องการไปเที่ยวท่องเที่ยวในประเทศต่อ โดยเฉพาะพื้นที่ทะเลเป็นหลัก”

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทางการเมือง ขณะนี้ยังไม่มีความรุนแรงอะไร จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ส่วนจะกระทบกับความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือไม่ มองว่าขณะนี้ต่างชาติน่าจะจดจ่อในการเดินทางเข้ามาในประเทศให้ได้ก่อน รวมถึงการเปิดรับต่างชาติ ยังไม่ได้เปิดแบบจำกัดอย่างเต็มที่ จึงยังไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้น ส่วนการเปิดรับต่างชาติระยะถัดไป

หากสถานการณ์ยังไม่มีความรุนแรง และเป็นการชุมนุมแบบแฟลชม็อบ แม้จะกระจายไปหลายจุดทั่วประเทศ แต่ก็ยังมองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศด้วย โดยเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบแน่นอน เพราะสามารถดำเนินการเปิดประเทศในเดือนต.ค.นี้ แบบที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ หลังจากนั้นคงต้องประเมินว่า เมื่อครบ 14 วันแล้ว สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง จะเข้าสู่การเปิดประเทศในระยะต่อไป อาทิ ระยะขยายผลเพิ่มเติม

ด้านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ จะได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในแง่จิตวิทยาบ้างหรือไม่ ประเมินว่าคนส่วนใหญ่น่าจะวางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวล่วงหน้าไว้แล้ว โดยการที่มีวันหยุดยาวตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ ประกอบกับมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ขยายเวลาใช้มาตรการออกไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค. 2564 จึงมองว่าไม่น่าจะมีผลเกิดขึ้น นอกจากนี้ ในวันที่ 20 ต.ค. จะมีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน ในส่วนของมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ ในการยกเครื่องใหม่ เป็นการปรับเงื่อนไขเพิ่มเติม หาสาเหตุของจำนวนการใช้ห้องพัก ที่แม้ตัวเลขจะยังเดิน แต่เป็นจำนวนที่ห่างจากเป้าหมายค่อนข้างมาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ต้องการให้จำนวนสิทธิที่เหลือเร่งออกมากกว่าเดิม ซึ่งก็ยังมีเวลาอยู่ เพราะได้ขยายวันใช้มาตรการออกไปแล้ว

“หลังจากเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ก็มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ออกไปต่างประเทศ แต่ก็ยังไม่ได้มีความกังวลอะไรเกิดขึ้น เพราะสำนักงานททท.ทั้ง 29 แห่งทั่วประเทศ ก็ติดตามสถานการณ์อยู่อย่างใกล้ชิด ในกรณีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในช่วงที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อการคุ้มครองด้านประกัน ซึ่งการชุมนุมทางการเมืองในอดีตก็เคยเกิดขึ้น ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่า ผลกระทบจะมีมากหรือน้อยเท่าใด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง