นพ.สสจ.ปทุมธานี หวั่นคุมโควิดไม่อยู่ วอน สปสช.แจกชุดเอทีเคให้กลุ่มเสี่ยงตรวจเองที่บ้าน
ข่าววันนี้ 18 กรกฎาคม นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 และการรับมือ ว่า ขณะนี้เพิ่งเริ่มการล็อกดาวน์ไปได้ไม่กี่วัน ยอดผู้ติดเชื้อยังคงเป็นผลมาจากช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงต้องรออีกประมาณ 10-15 วัน เพื่อดูว่าการล็อกดาวน์จะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงหรือไม่แล้วจึงค่อยประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ขณะที่พื้นที่ จ.ปทุมธานี ขณะนี้นอกจากที่ตลาดไทแล้ว ยังไม่พบการระบาดเป็นคลัสเตอร์ แต่ที่เจอส่วนมากคือการติดเชื้อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับคนในครอบครัว หากครอบครัวใดที่มีผู้ติดเชื้อก็มีโอกาสสูงที่คนในครอบครัวจะติดเชื้อตามไปด้วย ซึ่งการระบาดในลักษณะนี้ทำให้การตรวจเชิงรุกทำได้ลำบากเพราะลักษณะครอบครัวก็จะมีบ้านเรือนกระจายอยู่ทั่วไป
นพ.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยนั้น ในส่วนของผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการก็จะให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน หรือโฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation) โดยมีแพทย์ติดตามอาการผ่านระบบเทเลเมดิซีน (telemedicine) และจะให้ยาฟ้าทะลายโจรตั้งแต่ช่วงแรกของการรักษาเลย โดยขณะนี้มีผู้ที่เข้าระบบโฮม ไอโซเลชั่น ประมาณ 600-700 รายในทุกอำเภอ ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดตั้งคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น (Community Isolation) หรือการดูแลผู้ป่วยโดยชุมชนในพื้นที่ 2-3 อำเภอ และจะขยายให้ครบทุกอำเภอตามนโยบายคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัด ซึ่งผู้ที่จะรักษาตัวแบบคอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่นนี้ จะต้องยืนยันผลการตรวจด้วยการตรวจแบบอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) อีกครั้งก่อน
ขณะที่เตียงผู้ป่วยนั้น ในส่วนของโรงพยาบาลสนามได้จัดตั้งที่โรงยิมเนเซียม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีและที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ 60 พรรษา ทั้ง 2 แห่งนี้มีเตียงรวมกัน 350-400 เตียง ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี 400 เตียง ที่ตลาดไทย 700 เตียง และมีโครงการจะเปิดเพิ่มที่เทศบาลเมืองท่าโขลง 250 เตียง เทศบาลเมืองคลองหลวง 200 เตียง และที่เทศบาลเมืองลาดสวายอีก 150 เตียง ซึ่งจะใช้รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวเข้ม/สีเหลืองอ่อนที่ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนในโรงพยาบาลชุมชนจะรับผู้ป่วยสีเหลืองเข้มที่ต้องให้ออกซิเจน รวมทั้งผู้ป่วยสีแดงอ่อนก็รักษาได้เช่นกัน แต่ผู้ป่วยสีแดงเข้มจะดูแลที่โรงพยาบาลปทุมธานี ซึ่งรองรับผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจได้ 15-20 เตียง นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติที่สามารถรองรับผู้ที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจอีกประมาณ 40 เตียง
อย่างไรก็ดี นพ.สุรินทร์ กล่าวว่า ปัญหาที่พบในขณะนี้คือ เตียงในโรงพยาบาลมีไม่พอกับความต้องการ ทำให้ต้องให้ผู้ป่วยสีเขียวรักษาตัวที่บ้าน แต่พบว่าคนไข้ส่วนใหญ่ต้องการนอนในโรงพยาบาลและบางครั้งก็ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความรุนแรงของอาการ กลายเป็นว่าพื้นที่สำหรับผู้ป่วยสีเหลืองมีผู้ป่วยสีเขียวเข้ามาค่อนข้างเยอะ ทำให้บริหารเตียงค่อนข้างลำบาก
“เรามีข้อแนะนำว่าผู้ที่อาศัยในบ้านที่มีผู้ติดเชื้อก็ให้เฝ้าระวังกักตัวดูอาการไปเลยเพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง การออกมารับการตรวจควรให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางก่อน ส่วนคนที่ไม่มีอาการอะไรเลยก็ให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วันซึ่งจะช่วยลดการกระจายเชื้อลง ผมอยากให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซื้อชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (Antigen Test Kit) แจกคลินิกปฐมภูมิ ให้ทางคลินิกเขาเอาไปแจกให้ตรวจที่บ้านเลยจะดีกว่า คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก็จะได้ไม่ต้องออกมา เราก็จะได้เฝ้าสังเกตอาการระหว่างที่เขาอยู่ที่บ้าน” นพ.สุรินทร์ กล่าว
นพ.สุรินทร์กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรืออาการเล็กน้อย เข้าใจว่าบางคนก็เกิดความกังวลและอยากนอนโรงพยาบาล แต่ขณะนี้เตียงเต็ม ต้องใช้รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองจริงๆ ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกันว่าอาการแบบไหนที่อยู่บ้านได้ อาการแบบไหนเกณฑ์แบบไหนควรนอนโรงพยาบาล ต้องประเมินโดยทีมแพทย์และถ้ามีอาการใดๆอยากให้โทรมาปรึกษาเพื่อให้ทีมแพทย์ประเมินอาการก่อน