รีเซต

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้
ทันหุ้น
13 พฤษภาคม 2565 ( 09:34 )
113
เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1584.52 จุด (-28.82 จุด) ดัชนีพักตัวลงมาใกล้แนวรับสำคัญที่บริเวณ 1580 จุด ประเมิน Downside จำกัดค่อนข้างมาก ระยะสั้นควรจะได้เห็นการเกิด Technical Rebound

 

ประเมินแนวรับ : 1580 / 1565  แนวต้าน : 1600 / 1625

 

เก็งกำไรระยะสั้น ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 1580 จุด

 

**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะเริ่มแกว่งทรงตัวออกข้างได้บ้างหลังปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยระยะสั้นโดยมีแนวรับ 1,580+- จุด ซึ่งหากสามารถปิดยืนได้สิ้นสัปดาห์นี้ ทางเทคนิคมีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้นจากสัญญาณ RSI ที่ Oversold อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวคาดว่ายังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากยังคงมีประเด็นกดดันจากนโยบายการเงิน FED ที่ตึงตัวเร็ว ล่าสุดพาวเวลระบุว่า FED มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.5% ในการประชุม 2 ครั้งถัดจากนี้ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อดึงเงินเฟ้อกลับลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% และไม่สามารถการันตีได้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ Hard Landing

 

ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังคงอยู่ที่โค้งสุดท้ายของการประกาศกำไร 1Q22 ของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงติดตามตัวเลข GDP 1Q22 ในวันที่ 17 พ.ค. ระยะสั้นเราแนะนำ Selective Buy หุ้นที่โมเมนตัมกำไร 1Q22-2Q22 โดดเด่นและมี PER/PBV ต่ำ ส่วนระยะกลาง-ยาวยังไม่แนะนำเพิ่มพอร์ตและจะพิจารณาอีกครั้งหากดัชนีปรับตัวลงหาแนวรับหลักบริเวณ 1,560+- จุดหรือต่ำกว่า โดยยังเน้นหุ้น Value และ Reopening Play เป็นหลัก

 

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. :  GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

 

หุ้นเด่นวันนี้ : EKH

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท

• กำไร 1Q22 โตแกร่ง +38% Q-Q, +123% Y-Y หนุนจากการระบาดของโอมิครอนทำให้รายได้โตเด่น ขณะที่ต้นทุนควบคุมได้มีประสิทธิภาพ ทำให้ Margin ขยายตัวอย่างมีนัยยะ

• เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้นเป็น -36% Y-Y และยังคงเป็นระดับ New High เทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ระยะยาวคาดได้ประโยชน์จาก Synergy ร่วมกับกลุ่ม RAM รวมถึงการต่อยอดธุรกิจการแพทย์ด้านความงามและโรงพยาบาลผู้สูงอายุ

• แนวรับ 7.10-7 บาท แนวต้าน 7.60//7.85 บาท

 

**บล.เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวลง ตัวแปรหลัก ๆ ยูเครน-จีน-Fed ยังกดดันตลาดต่อ ตัวแปรที่ถ่วงตลาดมาจากต่างประเทศเป็นหลัก สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น รวมถึงการล็อกดาวน์ของจีนที่ยาวนาน ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ 2 ตัวแปรนี้ยังเป็นตัวกดดัน และทำให้เศรษฐกิจถดถอย

 

คืนวานนี้(12) Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาย้ำว่าจะมีการขึ้นดอกกเบี้ยที่ 0.50% แต่คณะกรรมการคนอื่น ๆ ยังไม่ได้มองข้ามการขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% เรามองว่า Fed ยังมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป

 

เงินตราต่างประเทศที่เป็นสำรองทางการของไทย ลดลง ล่าสุด $2.06 แสนล้านเหรียญ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าต่อ (ล่าสุด 34.75) ต้องระมัดระวังการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ

 

การปรับน้ำหนัก MSCI Index Review ที่มีผล 1 มิ.ย. โดย MSCI Global Standard Index มีหุ้นเข้า คือ JMT หุ้นออก คือ  STGT  และ MSCI Global Small Cap Index หุ้นเข้า คือ ASK,  BYD, DITTO, FORTH, KEX, PSG, SABUY, STGT, STARK, VIBHA หุ้นออก  คือ EASTW, JMT การปรับน้ำหนักหุ้นเข้า-ออก อาจจะทำให้มีผลต่อราคาหุ้นดังกล่าวได้

 

ฝ่ายวิจัยประเมินหุ้นที่มีโอกาสเข้า SET50 รอบนี้ โดยใช้ราคาอ้างอิง 3 พ.ค. หุ้นเข้า JMT, JMART, BLA และหุ้นออก STGT, RATCH, COM7

หุ้นขึ้น XD วันนี้ ได้แก่ DCC(@0.055) และหุ้นเพิ่มทุนของ AWC เริ่มมีการซื้อขายวันนี้

 

•  ตัวเลขเศรษฐวันนี้ คือ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ และการผลิตภาคอุสาหกรรมของอียู

 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นถูกกระทบจากปัจจัยรอบด้าน โดยเ)พาะความกลัวการขึ้นดอกเบี้ย และทำให้ Flow ไหลออกจากสินทรัพย์เกือบทุกตัว รวมทั้ง crypto currency  ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราแนะนำให้ลดการถือหุ้นลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ตราสารทุน ที่มีการ leverage ทุกรูปแบบ อาทิ Block Trade จะมีความเสี่ยง ถ้าวันนี้ราคาหุ้นหรือดัชนีฯ ปรับตัวลงมาก

 

ผลประกอบการบริษัทในตลาดที่รายงานมาแล้ว อาจดูไม่น่าสนใจที่จะเก็งกำไร บางตัวอาจเกิด sell on fact หลังส่งงบ จึงควรระวังด้วย วันสุดท้ายของการส่งงบคือ 17 พ.ค.

 

หุ้นในพอร์ตวันนี้ เรานำ KBANK, CPN ออก และ  หุ้นในพอร์ตประกอบด้วย BBIK*(10%) , CRC(10%), PSL(10%), BLA*(10%), INTUCH*(10%)

 

Strategy Stock Pick

INTUCH*: (เป้าเชิงกลยุทธ์ 74.00 บาท) “Defensive Stock สายปันผลสูง พื้นฐาน บ. ในกลุ่มยังแกร่ง”

•หุ้นสายปลอดภัย หนุนด้วยปันผลมากว่า 4% ต่อปี (Bloomberg Consensus) บ. ในกลุ่มที่สำคัญอย่าง ADVANC พื้นฐานยังแกร่งรายได้มีความสม่ำเสมอ

•กรณีที่ GULF เอาคณะกรรมการออก 2 ท่านไม่มีผลต่อการบริหารงานของ INTUCH ด้าน GULF ยังมีการซื้อหุ้น INTUCH เพิ่ม ติดตามการ Synergy

•Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 เฉลี่ยที่ 1.1 หมื่น ลบ. และ 1.2 หมื่น ลบ. +7%YoY, +9%YoY ตามลำดับ

 

Technical :  COM7, KCE

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง