รีเซต

'พีระพันธุ์' ให้ 45 วัน หาวิธีกดค่าไฟ 3.99 บาท

'พีระพันธุ์' ให้ 45 วัน หาวิธีกดค่าไฟ 3.99 บาท
TNN ช่อง16
7 เมษายน 2568 ( 08:54 )
15

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ได้มีมติลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ  สำหรับรอบเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท ลดลงจากอัตราหน่วยละ 4.15 บาท ในปัจจุบัน (มกราคม-เมษายน 2568)

ซึ่งอัตราดังกล่าวเป็นต้นทุนค่าไฟจริง 3.95 บาทต่อหน่วย ส่วนเกินอีกประมาณ 20 สตางค์ เป็นส่วนที่จัดเก็บไว้เผื่อกรณีต่าง ๆ เช่น ชำระหนี้ ดังนั้นเมื่อพิจารณาต้นทุนจริงเบื้องต้นที่ 3.95 บาทนั้น หากปรับลดส่วนเกินลงมาจาก 20 สตางค์ เหลือ 4 สตางค์ ก็จะได้ราคาค่าไฟที่ 3.99 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติให้หาแนวทางแก้ไขปัญหาสัญญารับซื้อไฟฟ้า ในรูปแบบส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า Adder-FiT และเงื่อนไขที่กำหนดให้สัญญาดังกล่าวมีการต่อสัญญาในเงื่อนไขเดิมอย่างต่อเนื่องโดยไม่สิ้นสุดสัญญา



ตลอดจนหาแนวทางแก้ไขปัญหาการชำระค่าความพร้อมจ่าย (AP) และค่าพลังงาน (EP) รวมทั้งเงื่อนไขข้อตกลงอื่น ๆ ในสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน (IPP) ตามสัญญารับซื้อไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ทุกสัญญา ที่ทำให้ กฟผ. หรือรัฐเสียเปรียบ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวที่สูงเกินสมควร หรือสูงเกินความเป็นจริง

นอกจากนี้ มติ ครม.ได้มอบหมายให้ศึกษา และเสนอแนวทางปรับโครงสร้างระบบ Pool Gas เพื่อให้ราคาก๊าซสำหรับใช้ในการผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนมีราคาต่ำลง เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยยังใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งข้อสั่งการทั้งหมดให้ศึกษาภายในระยะเวลา 45 วัน 


ซึ่งคาดว่าจะสามารถชำระคืนภาระต้นทุน AF คงค้างสะสมได้จำนวน 14,590 ล้านบาท เพื่อให้ กฟผ.สามารถชำระมูลค่าส่วนต่างของราคาก๊าซธรรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2566 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติต่อไป

รายงานข่าว ระบุว่า ในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ครม.เคยมีมติเห็นชอบเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าที่ 3.99 บาทต่อหน่วย จากเดิมหน่วยละ 4.45 บาท ทำให้มีส่วนต่างหน่วยละ 46 สตางค์ จำเป็นต้องให้ กฟผ.และ ปตท. แบกรับภาระไปก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง