รีเซต

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"

เลือกตั้ง 2566 สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"
TNN ช่อง16
11 พฤษภาคม 2566 ( 09:32 )
66

เลือกตั้ง 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง สรุปประเด็นดีเบตแก้ปัญหาปากท้อง จากกุนซือทีมเศรษฐกิจ "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย"

 

เลือกตั้ง 2566

 

เลือกตั้ง 2566 TNN ช่อง 16 ได้จัดเวที TNN 16 DEBATE เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กับเวทีประชันนโยบายปัญหาปากท้องจากกุนซือทีมเศรษฐกิจ 7 พรรคการเมือง ใน "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย" 

โดยมีพรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้าร่วมดีเบตในครั้งนี้ ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา , นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์ , นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ , ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย , ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล , นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย และดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

 

 

 

เวทีประชันนโยบายปัญหาปากท้อง "นโยบายเศรษฐกิจ เปลี่ยนประเทศไทย" เริ่มต้นด้วยคำถาม 

 

"มุมมองต่อนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย และการหารายได้ของประเทศ?"

 

- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์

 

จุดต่างของพรรคประชาธิปัตย์เราสามารถเปลี่ยนเงินในระบบที่มีอยู่ 1 ล้านล้านบาท เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต้องกู้ ไม่เป็นภาระงบประมาณ เราสามารถสร้างธนาคารชุมชน กองทุนต่างๆ มาดูแลเรื่องเอสเอ็มอี สำหรับสร้างรายได้ให้ประเทศ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดของประเทศไทย เราจะจัดเขตเศรษฐกิจพิเศษตามจังหวัด ส่งเสริมการลงทุน

 

- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล

 

สำหรับการหารายได้ การกระตุ้นค่าใช้จ่าย การกระจายรายได้ให้ทั่วถึง พรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำไปพร้อมๆ กัน เราต้องใช้เงินที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการปฏิรูประบบงบประมาณ เราต้องกระตุ้นงบหมุนเวียนให้ลงไปตรงจุด เราจะส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมใหม่ๆ แก้ไขและยกเลิกกฏระเบียบที่เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการภาคเอกชน

 

 

 

- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา 

 

สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมา เราอาจจะมีนโยบายประชานิยมเกือบทุกพรรค แต่จริงๆ การกระตุ้นเศรษฐกิจเราต้องการคนที่มีกำลังซื้อ หรือนโยบายดึงคนเข้ามาท่องเที่ยวหรือนโยบายใหม่ที่ช่วยหารายได้ให้กับประชาชน ส่วนนโยบายรายได้เข้ารัฐ เราต้องดึงคนเข้าระบบภาษีให้มาก ดังนั้นระบบภาษีต้องจูงใจ ส่งเสริมการลงทุน ส่งเสริมการส่งออก การท่องเที่ยว สิ่งนี้ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงรายได้เข้าสู่ระบบประเทศไทย 

 

 

 

- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

 

พรรคชาติพัฒนากล้า มุ่งเรื่องโอกาสนิยมไม่ใช่ประชานิยม โอกาสนิยมจะช่วยลดความเลื่อมล้ำ ยกเลิกระบบแบล็กลิสต์  ลดราคาอัตราดอกเบี้ย เงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี เป็นการเพิ่มโอกาสเอาเงินไปใช้สอย พรรคชาติพัฒนากล้าเชื่อในโอกาสนิยม

 

 

 

- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย

 

ทิศทางการออกแบบนโยบายของพรรคเพื่อไทย เราออกแบบมองภาพใหญ่ จะต่อจิกซอว์ให้เป็นรูปอะไร แล้วค่อยหยิบจิกซอว์ตัวเล็กๆ ขึ้นมาว่าจิกซอว์ตัวนี้สอดคล้องภาพใหญ่ที่เราต้องการจะสร้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย Digital Wallet 10, 000 บาท เป็น 1 ใน 70 นโยบายของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แค่การกระตุ้นกำลังซื้อ แต่ใหญ่เพียงพอที่จะไปกระตุ้นภาคการผลิตของประเทศ

 

 

 

- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย

 

การกระตุ้นเศรษฐกิจสิ่งสำคัญคือการกระตุ้นตรงไหนที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมา ถ้าเรากระตุ้นเศรษฐกิจจากคนตัวเล็ก ก็จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน ช่วยเอสเอ็มอี ช่วยภาษีนิติบุคคล เรามีนโยบายบำนาญประชาชน เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน 

 

 

 

- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ

 

งบประมาณแผ่นดินจะกลับมาทบทวนดูว่าการใช้จ่ายมีประสิทธิภาพหรือไม่ ปิดช่องทางคอร์รัปชันให้มากที่สุด นโยบายพรรคลดค่าใช้จ่ายหลักพลังงาน น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า การใช้จ่ายทั้งหมดถ้าคืนเงินเข้ากระเป๋า จะเกิด VAT 7 % เป็นภาษีที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับประชาชน

 

"ยกระดับรายได้อย่างสมดุลทั้งในมุมของประชากรและผู้ประกอบการ?"

 

- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล

 

พรรคก้าวไกลมองว่าปัญหาตลาดการค้าไทยในปัจจุบันเหมือนห่วงโซ่อาหาร ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ทั้งระบบไปพร้อมๆ กัน ขึ้นค่าแรงปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ช่วยเหลือเอสเอ็มอี 

 

- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา

การหารายได้ให้ประชาชน มองว่า ประชาชนที่มีปัญหาหาคือกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและแรงงาน  เราควรเพิ่มความรู้ เพิ่มอาชีพ หางานมากขึ้นเป็นอาชีพเสริม ส่วนการขึ้นค่าแรงกำหนดใหม่เป็นรายชิ้นงานแทนที่จะกำหนดเป็นรายวัน 

 

- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

พรรคชาติพัฒนากล้าเราไม่มีนโยบายขึ้นค่าแรง เงินเดือนปริญญาตรีเท่าไหร่ เราเชื่อว่าถ้ากำหนดแบบนั้นจะมีปัญหาเงินเฟ้อ ของแพง เชื่อในรูปแบบไตรภาคี ลูกจ้าง นายจ้าง รัฐ คุยกัน อยากเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบประกันสุขภาพให้ครอบคลุม 

 

- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย

 

นายจ้าง-ลูกจ้างในระบบเศรษฐกิจต้องเดินคู่กันไป ภาคแรงงานพรรคเพื่อไทยมีกลไกคู่ขนานในการเข้าไปยกระดับรายได้ทั้งภาครัฐและเอกชน การขึ้นค่าแรงไม่สามารถทำอย่างเดียวได้ต้องเพิ่มทักษะให้แรงงานการขึ้นค่าแรง ขึ้นตาม 4 ปัจจัย จีดีพี เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน การคาดการณ์จีดีพีในอนาคต

 

- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย

 

การที่เราทำให้ประเทศเศรษฐกิจดี ค่าแรงก็จะดีขึ้นมาเอง เรามุ่งเน้นสร้างเอสเอ็มอีให้เข็มแข็ง ผลักดันอุตสาหกรรมไทยให้แข็งแรง เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รายได้ก็จะเกิดขึ้น

 

- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ

 

การสร้างสมดุลระหว่างนายจ้าง-ลูกจ้าง ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป การขึ้นค่าแรงต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด

 

 

 

- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์

 

เศรษฐกิจไทยต้องโตเกิน 5 % พอเศรษฐกิจโตทุกอย่างและบรรยากาศจะดีขึ้น สิ่งแรกคือต้องปลดหนี้ของภาคประชาชน ปรับโครงสร้างหนี้ ลดต้น ลดดอกเบี้ย และต้องดูแลภาคธุรกิจเอสเอ็มอี

 

"บทบาทการค้าไทยในเวทีโลก?"

 

- ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย จากพรรคชาติไทยพัฒนา

 

เศรษฐกิจไทยพึ่งพิงการส่งออก ดังนั้นเราต้องแข็งแกร่งทางด้านอุตสาหกรรม ปัจจุบันอุตสาหกรรมศักยภาพของไทยอยู่ที่อันดับ 35 ของโลก ถ้าเราสร้างความแข็งแกร่งเราก็จะแข่งขันกับตลาดโลกได้

 

- ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคชาติพัฒนากล้า

 

พรรคชาติพัฒนากล้าสนใจเศรษฐกิจต่างประเทศเรื่องที่เร่งด่วนเลยคือเรื่องพลังงาน ราคาไฟฟ้า น้ำมัน แก๊ส รวมทั้งเรื่องการขาดดุลการค้า รวมทั้งเรื่องการเกษตร การต่างประเทศที่ต้องทำเร่งด่วนเกี่ยวกับปากท้องโดยตรง

 

- ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล จากพรรคเพื่อไทย

 

พรรคเพื่อไทยเสนอยุทธศาสตร์กังหันลม ไม่ว่าลมจะพัดไปทิศทางไหน กังหันหมุนตามได้และทุการหมุนสามารถสร้างรายได้ได้ จุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลกจะต้องมั่นคง ในแง่ของเศรษฐกิจต้องสร้างประเทศให้เป็นแม่เหล็กในการดึงดูดเม็ดเงินเข้ามา 

 

- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย

 

ถ้าเราอยากยืนในเวทีโลกเราต้องมาดูก่อนว่าเราเก่งในด้านใด ด้านอาหาร เกษตร ท่องเที่ยว ต้องมีการแปรรูปอาหารให้มากขึ้น ใช้ EEC ตั้งหลักให้อุตสาหกรรมที่เราเข้มแข็ง

 

- นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ

 

จากการสำรวจ อาหารไทย ขึ้นอันดับ 1 โลกหลายอย่าง เรื่องการท่องเที่ยวจึงต้องสอดรับด้านอาหาร การส่งออกเป็นเรื่องสำคัญ

 

- นายเกียรติ สิทธีอมร จากพรรคประชาธิปัตย์

 

ประเทศไทยต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจ เราต้องต่อยอดด้วยเครื่องมือใหม่ 

 

- ดร.วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร จากพรรคก้าวไกล

 

เราต้องทำการต่างประเทศและการทูตเพื่อคนไทยเป็นหลัก ปัจจุบัน เรื่อง เศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ ปัญหาระหว่างพรมแดน เป็นเรื่องเดียวกัน เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การต่างประเทศ

 

ภาพจาก TNN ช่อง 16 

ขอบคุณข้อมูลข่าวจาก TNN: https://www.tnnthailand.com/home

 

เกาะติด เลือกตั้ง 2566 

 

 

บทความเกี่ยวกับการ เลือกตั้ง 2566

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง