รีเซต

ชาวบ้านเผยชื่นชม “พระคันธารราฐ” พระประธาน ปางประทับนั่งห้อยพระบาทแห่งเดียวในพะเยา

ชาวบ้านเผยชื่นชม “พระคันธารราฐ” พระประธาน ปางประทับนั่งห้อยพระบาทแห่งเดียวในพะเยา
มติชน
27 ตุลาคม 2565 ( 11:17 )
50

วันที่ 27 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านก้าวเจริญ ม.11 ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังทราบข่าวว่ามีพระพุทธรูปที่เป็นหนึ่งเดียวใน จ.พะเยา โดยเป็นของวัดบุญนาค วัดเจ้าคณะอำเภอเชียงคำ ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งไม่เหมือนที่ไหนทั้งสิ้นของจังหวัดประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถที่หลังคาทรงคล้ายแม่ไก่กำลังฟักไข่ นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับวัดแห่งนี้มากมาย ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างให้ความศรัทธาพระประธานแห่งนี้อย่างมาก

 

พระครูปุณณธรรมรักขิต เจ้าอาวาสวัดถ้ำบุญนาค ได้เล่าว่า วัดแห่งนี้ได้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2538 และถูกตั้งให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์เมื่อปี 2547 ทั้งนี้พระอุโบสถที่เห็นนี้แบบแปลนได้ถอดแบบมาจากวัดเชียงทองของ สปป.ลาว แต่ของทางวัดเชียงทองเป็นอุโบสถที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง  จึงสั่งให้ผู้ว่าจ้างได้ดัดแปลงให้เป็นปูนทั้งหลังจะดีกว่าและแปลนเดิมพระอุโบสถเป็นสีดำ  หากทำเป็นสีดำไปด้วยแล้วเวลาญาติโยมเจอเรื่องทุกข์ร้อนแล้วเข้ามาในวัดขึ้นไปกราบพระประธานแล้วก็อาจจะทำให้จิตใจไม่ผ่องใสจึงได้เปลี่ยนเป็นสีขาวและสีทอง ส่วนหลังคาพระอุโบสถเป็นแบบทรงแม่ไก่กำลังฟักไข่ นอกจากนี้จุดที่หน้าสนใจที่สุดนั้นเห็นจะเป็นพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถที่ไม่เหมือนใคร คาดว่าเป็นที่เดียวของ จ.พะเยาที่เป็นทรงแบบนี้โดยมีชื่อว่า “พระคันธารราฐ” ปางประทับนั่งห้อยพระบาทซึ่งเป็นปางที่ถูกคาดว่าหน้าจะสร้างประมาณต้นยุคของพระพุทธศาสนา ซึ่งการหย่อนขาของพระพุทธรูปนั้นมีหลายแบบด้วย และพระธาตุที่อยู่หลังพระอุโบสถได้ชื่อว่า “พระธาตุศรีสองรัก” ซึ่งถอดแบบมาจากวัดเชียงทองเช่นกัน

 

พระครูปุณณธรรมรักขิต ได้เล่าอีกว่า สำหรับชื่อวัดนั้นหากมองขึ้นหรือเดินขึ้นไปไปด้านบนของวัดที่เป็นภูเขาห่างออกไปประมาณ 2-300 เมตร ได้มีถ้ำอยู่แห่งหนึ่งซึ่งปัจจุบันปากถ้ำถูกปิดสนิทด้วยกาลเวลาที่แปรผันหลายสิบปีโดยคนสมัยก่อนได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่าถ้ำแห่งนี้เวลาเดินลงไปจะมีลมสอดขึ้นมาคาดว่าหน้าจะเป็นทางออกส่วนปากถ้ำหน้าจะอยู่ไม่ไกลจากที่แห่งนี้ อีกทั้งภายในถ้ำเมื่อก่อนมีงูเยอะมากมีทั้งพญางูตัวใหญ่ด้วยแต่ไม่เคยกัดชาวบ้านแม้แต่คนเดียว ด้วยเหตุนี้อาตมาเคยจำวัตรและนิมิตฝันว่ามีพญางูใหญ่สีดำได้เลื้อยออกมาจากถ้ำแล้วพุ่งตรงมาที่บริเวณลานกลางวัดก่อนจะร้องออกมาเสียงดังปานฟ้าผ่า ซึ่งอาตมาเชื่อว่าคงจะเป็นพญานาคที่เฝ้าถ้ำแห่งนี้หลังจากนั้นจึงได้มีการปั้นบันไดนาคขึ้นมาจำนวน 4 ตัว ทั้งนี้บันไดนาค อุโบสถ และพระธาตุช่างที่ทำนี้มีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน แต่เมื่อเสร็จสิ้นพบว่าทำไมดูเหมือนช่างกลุ่มเดียวกันทำเพราะดูกลมกลืนสวยงาม ไม่มีจุดไหนเด่นเกิน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของงูเขียวตัวหนึ่งที่อยู่ในพระอุโบสถจะชอบออกมาเพียงแต่วันพระ ส่วนวันอื่นไม่ออกมา

 

ผู้สื่อข่าวได้นำโดรนบินขึ้นสำรวจเพื่อหาปากถ้ำและทางพระครูปุณณธรรมรักขิต ได้เห็นภาพมุมสูงก็ได้บอกว่าต้นไม้ที่สีไม่เหมือนกับต้นอื่นตรงนั้นคือปากถ้ำ ซึ่งสร้างความแปลกใจยิ่งนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง