รีเซต

‘Mareterra‘ เขตเศรษฐกิจสีเขียวบนพื้นน้ำแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท

‘Mareterra‘ เขตเศรษฐกิจสีเขียวบนพื้นน้ำแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท
TNN ช่อง16
14 ธันวาคม 2567 ( 14:35 )
15

เผยโฉม “แมร์เทอร์รา” (Mareterra) เขตเศรษฐกิจสีเขียวมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 71,000 ล้านบาท โครงการขยายเมืองบนพื้นที่ถมทะเลที่ยั่งยืน เป็นต่อสิ่งแลดล้อม และใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศโมนาโก


ประเทศโมนาโกเผยโฉมโครงการ “แมร์เทอร์รา” (Mareterra) เขตเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นโครงการขยายเมืองบนพื้นที่ถมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย ผลงานที่ออกแบบโดยทีมสถาปนิกชื่อดังระดับโลกนี้ได้เพิ่มพื้นที่ถึง 60,000 ตารางเมตร (6 เฮกตาร์) หรือประมาณ 3% ของพื้นที่ทั้งหมดของโมนาโก ที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย แต่ยังเป็นการพัฒนาเมืองที่สะท้อนถึงความยั่งยืนและผลประโยชน์ของผู้คนเป็นหลัก


โครงการพัฒนาเมืองแมร์เทอร์ราที่มีมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 71,000 ล้านบาทนี้ เกิดขึ้นด้วยเป้าหมายที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ของโมนาโกซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กกว่ากรุงเทพ โดยมีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร โครงการนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ถมทะเลทั้งหมดซึ่งผสานพื้นที่ใช้สอยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างลงตัว


โดยพื้นที่ครึ่งหนึ่งจะใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะทางเดินเลียบชายฝั่ง และท่าจอดเรือ ภายในยังรวมถึงโซนที่พักอาศัยอย่าง “เลอ เร็นโซ” (Le Renzo) พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ นับว่าเป็นการตอบโจทย์ข้อจำกัดด้านพื้นที่ของโมนาโก และแสดงถึงการพัฒนาเมืองที่สมดุลระหว่างความทันสมัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


แมร์เทอร์รายังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นแรกของการวางโครงสร้าง โดยโครงการได้ทดสอบเทคนิคการก่อสร้างที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทีมพัฒนายังทำงานร่วมกับนักชีววิทยาทางทะเลในการย้ายและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในทะเลในพื้นที่ เช่น หญ้าทะเลโพซีโดเนีย (Posidonia) และหอยนางรมขนาดใหญ่ ทั้งยังติดตั้งแผงกันตะกอนและกำหนดตารางขุดลอกที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ อีกทั้งได้มีการออกแบบโครงสร้างคอนกรีตใต้น้ำให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ


นอกจากนี้ โครงการยังใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น ระบบแลกเปลี่ยนความร้อนจากน้ำทะเล ระบบเก็บน้ำฝนสำหรับการชลประทาน และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตพลังงานได้ถึง 40% ของความต้องการในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่สีเขียวอย่างหลังคาเขียว ป่าขนาด 10,000 ตารางเมตร และการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 1,000 ต้น ทั่วพื้นที่


ทีมสถาปนิกระดับโลกได้ร่วมรังสรรค์ ผลงานการออกแบบในโครงการนี้ อย่าง “วาโลด เอต์ พิสตร์ อาร์คีเท็กส์” (Valode et Pistre Architectes) จากฝรั่งเศสที่ออกแบบพื้นที่เขต “จาร์แดงส์ โดว์” (Jardins d’Eau) และเขตคอลลิน (Colline) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ “เรนโซ เปียโน บิลดิง เวิร์กชอป” (Renzo Piano Building Workshop) จากอิตาลีที่ออกแบบโซนท่าเรือ และอาคารที่พักอาศัย Le Renzo และ มิเคล เดส์วีนญ์ (Michel Desvigne) จากฝรั่งเศสที่ดูแลงานด้านภูมิทัศน์เมืองให้กลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสถาปนิกชื่อดังอื่น ๆ ที่ออกแบบบ้านพักอาศัยที่เพิ่มความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม


แมร์เทอร์รายังให้ความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานด้านวัฒนธรรมของโมนาโก อย่าง การขยายพื้นที่ศูนย์การประชุม “กรีมัลดี ฟอรัม” Grimaldi Forum เพิ่มเติมถึง 10,000 ตารางเมตร ที่ครอบคลุมพื้นที่จัดแสดง ขนาด 6,000 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เช่น พื้นที่นั่งสมาธิ จุดชมวิวใต้น้ำ และทางเดินสำหรับคนเดินเท้า


แมร์เทอร์รานับว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ถมทะเลที่ยั่งยืน ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับมาตรฐานความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล สำหรับการพัฒนาเมืองบริชายฝั่งทั่วโลก โดยได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมอย่างเป็นทางการแล้วในเดือนธันวาคม 2024



ที่มาข้อมูล https://www.designboom.com/architecture/mareterra-ecodistrict-monaco-renzo-piano-valode-pistre-land-reclamation-12-05-2024/ 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง