อสมท ปรับโครงสร้างใหม่รับแผนธุรกิจในอนาคต ย้ำพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง

นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และ รักษาการในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2564 อสมท จะขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว Provider of trustworthy, accurate and timely content มุ่งนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ เสริมสร้างความฉลาด เพื่อสร้างสังคม ตื่นรู้ ผ่านทุกช่องทางที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และรับผิดชอบต่อสังคม โดยภาพรวมในปีนี้ อสมท จะมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจสื่อดั้งเดิมที่มีอยู่คือธุรกิจสื่อโทรทัศน์ และธุรกิจสื่อวิทยุ ซึ่ง อสมท มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการทำงานด้านสื่อสารมวลชน
รวมถึงความพร้อมของอุปกรณ์ในการแพร่ภาพและกระจายเสียง โดยดำเนินการแพร่ภาพออกอากาศ ผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลระดับชาติจำนวน 39 สถานีหลัก และ 129 สถานีเสริมทั่วประเทศ ตลอดจนความพร้อมในการให้บริการของเครือข่ายสถานีวิทยุ อสมท ที่มีมากถึง 62 สถานี ซึ่งสามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ฝ่ายบริหาร อสมท จึงต้องการพัฒนาธุรกิจเดิมให้มีความแข็งแรง เพื่อรักษารายได้และเรตติ้ง ก่อนปรับระบบการผลิตให้มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้นในอนาคต
“ปัจจุบันธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุส่วนใหญ่จะปรับตัวให้เป็นสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริงยังเป็นที่ประจักษ์ว่าตัวเลขของคนที่รับชมโทรทัศน์ และวิทยุไม่ได้น้อยลงจากเดิมมาก แต่กลับมีการเติบโตและมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกปี ทำให้สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในตอนนี้คือ การพัฒนาธุรกิจเดิมที่เรามีให้น่าสนใจ และหลากหลายเพื่อสอดรับกับคนทุกกลุ่ม รวมถึงเตรียมแผนปรับตัวให้พร้อมกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” นายสิโรตม์ กล่าว
นายสิโรตม์ กล่าวว่า แม้จะต้องเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ประกอบกับการเกิดขึ้นของสื่อดิจิทัลภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและรุนแรง ทำให้ อสมท ต้องปรับแผนธุรกิจรวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา อสมท ได้เปิดโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) เพื่อปรับลดจำนวนบุคลากรให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจในอนาคต ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรได้มากถึง 25% ขณะที่ ปี 2564 ฝ่ายบริหารได้บูรณาการการทำงานของส่วนงานขาย และส่วนงานการตลาดให้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ของ อสมท และเตรียมใช้กลยุทธ์ Strategic Partnership ในการหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของ อสมท
นอกจากนี้ เราจะมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการพัฒนาสินทรัพย์ที่ดินที่ อสมท มีอยู่ให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจ อาทิ การพัฒนาโครงการบนที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 หลังจากปีที่ผ่านมา อสมท ได้เปิดให้นักลงทุนและบุคคลที่สนใจร่วมเสนอแนวคิดในการพัฒนาที่ดินกรรมสิทธิ์ของ อสมท บนพื้นที่ 50 ไร่ ติดศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้การพัฒนาที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเชื่อว่าจะได้นักลงทุนเข้ามาพัฒนาที่ดินฯ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564
สำหรับแฟนรายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ในปี 2564 อสมท ได้ส่งรายการแนว ส่งเสริมความรู้และสาระบันเทิง หลากหลายแนวตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมซีรีส์ดังจากทุกมุมโลก ทั้งเอเชียฟอร์มยักษ์ พรีเมียมจากประเทศอังกฤษ ตลอดจนซีรีส์อินเดียยอดนิยม ในส่วนของธุรกิจวิทยุอสมท ได้วางแผนธุรกิจเพื่อรองรับการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่อาจจะมีขึ้นในปี 2565 โดยให้แต่ละคลื่นเตรียมความพร้อมในการนำเสนอเนื้อหาสาระใน Platform ออนไลน์มากขึ้น นำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือการนำเสนอในรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น