จนท.ตั้งจุดสกัดเพิ่ม หลังปูดใบสั่งนายทุน กวักมือเรียก แรงงานต่างด้าว
ตำรวจประจวบคีรีขันธ์ สนธิกำลัง หลายฝ่าย วางกำลังอุดช่องทางธรรมชาติ หลังแรงงานเมียนมา หลายร้อยคนจ่อทะลักเข้าประเทศ ตามใบสั่งนายทุน
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2564 พ.ต.อ.นิรันดร ศิริสังข์ไชย รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สภ.คลองวาฬ สภ.อ่าวน้อย ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานลาดตระเวนที่ช่องทางธรรมชาติชายแดนไทยพม่า พร้อมตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณช่องทางเข้าออกจากแนวชายแดน ม.9 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
สกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง หลังจากมีรายงานทางการข่าว ระบุว่า มีนายทุนพร้อมนำชาวเมียนมาหลายร้อยคนจากบ้านมูด่องตรงข้ามชายนแดนด่านสิงขร เดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าประเทศ เพื่อไปขายแรงงาน ตามใบสั่งของนายทุนในโรงงานอุตสาหกรรมทั้งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ขณะนี้ตำรวจภูธรได้วางกำลังคุมเข้มช่องทางธรรมชาติที่ช่อง 10 ศพ ม.3 บ้านหนองขาม ช่องทางธรรมชาติหุบตาหลี ม.9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากจับแรงงานเถื่อนหนีเข้าเมือง 11 ราย โดยใช้เส้นทางธรรมชาติเดินเท้าข้ามแดน
ขณะเดียวกันพบว่าที่ช่องทางธรรมชาติมีเส้นทางหลบหลีกได้หลายเส้นทางและมีการขยายเส้นทางใหม่ ขณะที่การวางรั้งลวดหนาม 3 ชั้น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การติดตั้งไฟส่องสว่างจากระบบโซล่าเซลล์ หรือมีการติดตั้งสัญญาณกันขโมย ไม่สามารถป้องกันปัญหาได้จริง
พ.ต.อ.นิรันดร กล่าวว่า ผบ.ตร. มีความห่วงใยพื้นที่ตามแนวชายแดนจากปัญหาหลบหนีเข้า จึงเข้มงวดกวดขันเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นจับกุมแรงงานต่างด้าวและกำชับห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด ขณะนี้ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด สืบสวนหาข่าวกลุ่มนายหน้าขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว
อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ยอมรับว่ามีกลุ่มนายหน้าค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติเป็นขบวนการใหญ่ทั้งฝั่งไทย และเมียนมา สำหรับจุดหมายปลายทางที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม หากจะตัดตอนเพื่อแก้ไขปัญหา ต้องเป็นนโยบายของผู้บริหารในระดับสูง เนื่องจากโรงงานยังมีความต้องการใช้แรงงาน