SABUYคุยสหพัฒน์ มีบิ๊กเนมร่วมปั้นSVT

นายชูเกียรติ  รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า กรณีที่บริษัทเข้าไปเก็บหุ้น บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT ของกลุ่มสหพัฒน์ จำนวน 33,150,000 หุ้น สัดส่วน 4.74% จนปรากฏชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 ของ SVT นั้น จากการปิดสมุดทะเบียนล่าสุด 10 มีนาคม 2566 ซึ่งการเข้า SVT เนื่องจากเห็นอนาคตและโอกาสในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน

@จับตาดีลเม.ย.นี้

โดยล่าสุดบริษัทมีการติดต่อกับ "กลุ่มสหพัฒน์" เข้ามาเพื่อที่จะเจรจาธุรกิจร่วมกัน มีกำหนดนัดเจรจาในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งสหพัฒน์คือบริษัทยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของไทยที่มีการผลิตสินค้าจำนวนมาก ตลอดจนมีพนักงานจำนวนมาก

ดังนั้นในการเจรจามีโอกาสที่จะซินเนอร์ยี่ทางธุรกิจกันได้มากขึ้น โดย SABUY พร้อมนำระบบและอีโคซิสเต็มเข้าสนับสนุนกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ต้นทุนในการดำเนินงานต่างๆ ลดลง และพร้อมเติบโตไปด้วยกัน และมีโอกาสในการขยายธุรกิจต่อเนื่องร่วมกันไปยังต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน SABUY ก็มีโอกาสได้รับประโยชน์จากอีโคซิสเต็มที่ใหญ่ของสหพัฒน์ ทั้งจำนวนพนักงาน จำนวนลูกค้า ซึ่งมีโอกาสที่จะสนับสนุนสินค้าและบริการต่างๆ อาทิ การพิมพ์บัตรพนักงาน เป็นต้น

ทั้งนี้บริษัทยังจะมีพันธมิตรซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่เข้าร่วมธุรกิจกับ SVT ด้วย

@SVT รอเจรจา

ด้าน นายพิศณุ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซันเวนดิ้ง เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SVT เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า ได้มีการติดต่อเพื่อเจรจาร่วมกับบริษัท SABUY แต่ยังไม่ได้เจรจาอะไรกันมาก เนื่องจาก นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้นจึงจะมีการเจรจาหลังจากที่กลับมา

โดยขณะนี้รู้เพียง SABUY เข้ามาซื้อ SVT ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีธุรกิจดำเนินตู้จำหน่านสินค้าอัตโนมัติ (เวนดิ้งแมชชีน) เหมือนกัน แต่ SABUY อาจจะมีหลากหลายกว่า และประกาศที่จะร่วมมือกับบริษัท ยังไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมากกว่านี้

อย่างไรก็ตามได้รับฟังจาก นายสุรัตน์  วงศ์รัตนภัสสร กรรมการบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ICC ในกลุ่มสหพัฒน์ ซึ่งได้เข้าไปเป็น กรรมการอิสระของ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ที่ SABUY ถือหุ้นอยู่ ซึ่งก็ได้ทราบข้อมูลว่า SABUY สนใจที่จะร่วมดำเนินการกับบริษัท

@ดึงจุดแข็งร่วม

แต่คงต้องฟังเจตนากับวัตถุประสงค์ก่อน หากสิ่งไหนไปด้วยกันได้ ทางบริษัทยินดีที่จะพิจารณา อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาในลักษณะการดำเนินของ SVT นั้นค่อนข้างคอนเซอร์เวทีฟ หรือ การค่อยๆ เดินแบบอนุรักษนิยม ขณะที่ SABUY จะมีการเร่งการเติบโตที่รวดเร็ว ซึ่งก็คงต้องหาแนวทางร่วมกัน

โดยมองว่า จุดแข็งของบริษัทที่มีโรงงานปรับปรุงสภาพและประกอบ (Refurbishment) เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติของตนเอง และมีสาขากระจายสินค้า 15 แห่ง น่าจะเป็นจุดที่จะซินเนอร์ยี่กับ ธุรกิจของ SABUY ได้ ซึ่งขนาดและจำนวนที่มากขึ้น ก็มีโอกาสที่จะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานต่อตู้ลดลง