รีเซต

ธารน้ำแข็งละลาย กำลังเปลี่ยนระบบนิเวศช้าๆ สัญญาณเตือนโลกร้อนที่ถูกมองข้าม

ธารน้ำแข็งละลาย กำลังเปลี่ยนระบบนิเวศช้าๆ สัญญาณเตือนโลกร้อนที่ถูกมองข้าม
TNN ช่อง16
13 ธันวาคม 2568 ( 09:41 )
8

ธารน้ำแข็งโคลาโฮย์ ในแคชเมียร์ที่เคยเป็นสีขาวพานตัวเหนือเทือกเขาหิมาลัยฝั่งตะวันตก เดิมทีเคยเป็นธารน้ำแข็งที่หล่อเลี้ยงแหล่งน้ำจืด และผืนป่ามาหลายชั่วอายุคน แต่ปัจจุบันภูมิทัศน์บริเวณนี้กลับเปลี่ยนไปจนเหลือแค่เพียงหินสีเข้ม แผ่นน้ำแข็งเปราะบาง และมีทุ่งหญ้าเริ่มโผล่ให้เห็น ทั้งหมดนี้คือระบบนิเวศของแคชเมียร์ที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ แต่สั่นคลอนวิถีชีวิตของมนุษย์และสัตว์ การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทำให้ดอกไม้บนภูเขาเริ่มบาน สัตว์ป่าถูกคุกคามถิ่นที่อยู่อาศัย เสือดาวหิมะถูกพบใกล้แหล่งชุมชนมากขึ้น เนื่องจากแหล่งอาหารลดลง 

 

ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าธารน้ำแข็งโคลาโฮย์หดตัวลงไปเกือบ 1 ใน 4 ของพื้นที่ในช่วงระยะเวลา 60 ปี แผ่นน้ำแข็งถอยร่นไปแล้วกว่า 900 เมตร จากรายงานระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะทำให้แผ่นน้ำแข็งบางลงถึง 65 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งในอนาคตอันใกล้เราอาจสูญเสียธารน้ำแข็งมากกว่า 70% และหากอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 4-7 องศาเซลเซียสภายในปี 2100 โลกอาจสูญเสียธารน้ำแข็งครั้งใหญ่อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

การหดตัวของธารน้ำแข็งยังส่งผลกระทบต่อระบบน้ำในธรรมชาติ เนื่องจากธารน้ำแข็งเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของผู้คนซึ่งส่วนใหญ่ทำการเกษตรและปศุสัตว์ในทุ่งหญ้า เมื่อธารน้ำแข็งลดลง ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำจึงลดลงตามไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด หลายพื้นที่พบว่าแหล่งน้ำแห้งเร็วกว่าเดิมทั้งที่ยังไม่เข้าฤดูร้อน ทั้งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในอดีต แม้แต่ช่วงที่แห้งแล้งที่สุดของปีก็ตาม

วิกฤตธารน้ำแข็งหดตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่โคลาโฮย์เท่านั้น แต่บนเทือกเขาหิมาลัยในเนปาล ธารน้ำแข็งหายไปแล้วกว่า 66% และอาจหายไปหมดภายในปี 2040 นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่านี่คือสัญญาณเตือนของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ที่บีบบังคับให้ระบบนิเวศต้องปรับตัว ผลกระทบที่ตามมาอาจหมายถึงความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีชีวิตของผู้ที่กำลังเปลี่ยนไปจนไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง