ศปช. เตือนภาคใต้ระวังอันตรายฝนตกหนัก ภาคเหนือเตรียมรับมือไฟป่า-หมอกควัน
วันนี้ (2 พ.ย. 67) เวลา 10.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. เปิดเผยว่า ศปช. เตือนประชาชนพื้นที่ภาคใต้ช่วงวันที่ 2 – 8 พ.ย. 67 ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ใน 11 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่
-จ.ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย
-จ.ชุมพร อำเภอเมืองชุมพร สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ
-จ.ระนอง อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ
-จ.สุราษฎร์ธานี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี กาญจนดิษฐ์ พนม บ้านนาสาร บ้านนาเดิม พุนพิน เคียนซา พระแสง ดอนสัก และเกาะสมุย
-จ.พังงา อำเภอตะกั่วป่า และกะปง
-จ.ภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง
-จ.กระบี่ อำเภอเมืองกระบี่ เหนือคลอง และคลองท่อม
-จ.ตรัง อำเภอเมืองตรัง ย่านตาขาว ห้วยยอด นาโยง และวังวิเศษ
-จ.นครศรีธรรมราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ขนอม ทุ่งสง สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร
-จ.พัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง และควนขนุน
-จ.สงขลา อำเภอเมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด นาทวี สิงหนคร หาดใหญ่ และรัตภูมิ
นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังน้ำในอ่างเก็บน้ำพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำรัชชประภา และอ่างเก็บน้ำบางลาง นอกจากนี้ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กอีก 7 แห่ง อาทิ อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น อ่างเก็บน้ำบางกำปรัด อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำคลองหยา อ่างเก็บน้ำบางวาด อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ และอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ รวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 1 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสวนหนังที่มีปริมาณน้ำมากกว่าความจุต้องมีการปรับระบายน้ำบางส่วน
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เริ่มติดตามสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใน เขตพื้นที่ภาคเหนือ 7 จังหวัด เพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2568 แล้ว ซึ่งได้สรุปผลถอดบทเรียนจากการดำเนินงานในครั้งก่อน นำมาเป็นแผนปฏิบัติงานในระดับจังหวัดในปี 2568 รวมถึงใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2569-2573) แบ่งการบริหารออกเป็น 6 มิติ ประกอบด้วย มิติป่าสงวนฯ , มิติป่าอนุรักษ์ , มิติชุมชนเมือง ระบบขนส่ง อุตสาหกรรม และอื่นๆ , มิติด้านการเกษตร , มิติด้านการบริหารและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และ มิติด้านการลดผลกระทบด้านสุขภาพ นำมาเป็นแผนหลักในการปฏิบัติการรับมือกับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปี 2568